รีวิวหนัง End of the Road สุดปลายถนน เส้นทางชีวิตขรุขระระทึกของแม่ลูกและน้า

รีวิวหนัง ambulance

อย่ามาดูหมิ่นกับ..แม่! ถึงเวลามาเจอกับหนังทริลเลอร์ตื่นเต้นตามถนนหนทางสายโลกันต์ของครอบครัวที่กำลังกลายเป็นจุดมุ่งหมายเสี่ยงตาย

นี่เป็น “End of the Road สุดปลายถนนหนทาง” หนังอาชญากรรมสุดบีบคาดคั้นในเหตุการณ์ฉุกเฉิน แม้ว่าจะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จซ้ำๆซากๆ แต่ว่าหนังก็ใส่เกียร์ไม่ยั้งรวมทั้งพุ่งออกสตาร์ทแรง ทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกจิกเบาะได้อย่างเซอร์ไพรส์พอได้

End of the Road สุดปลายถนนหนทาง เกิดเรื่องราวการเดินทางย้ายบ้านแบบผ่านประเทศที่เปลี่ยนเป็นทางสายเมืองนรกของ เบรนด้า กับลูกๆอีกทั้ง 2 คน กับ เรจจักจี้ น้องชายของเบรนด้า ภายหลังไปพบมองเห็นเหตุการฆาตกรรมสุดโหดเหี้ยม ครอบครัวนี้ก็เลยกลายเป็นวัตถุประสงค์ของคนร้ายลึกลับ ขณะที่อยู่กันผู้เดียวท่ามกลางทะเลทรายในนิวเม็กซิโกแล้วก็ถูกตัดขาดการช่วยเหลือ เบรนด้าต้องหันมาเสี่ยงอันตรายสู้เพื่อป้องกันครอบครัวของคุณ

นี่เป็นงานของผู้กำกับหญิง “ไม่ลลิเซ็นต์ เชลตัน” ที่ถือได้ว่าผู้กำกับที่ชำนิชำนาญในแวดวงโทรทัศน์ซีรีส์มานานเป็นทศวรรษ คราวนี้ถือว่าเป็นการหวนคืนมาทำหนังเรื่องยาวอีกทีในรอบกว่า 20 ปีของคุณ โดยดูแลจากบทหนังของ “คริสโตเฟอร์ เจ. มัวร์” ที่ได้ “เดวิด ลูเฮย์” ที่เคยมีประสบการณ์เขียนหนังทริลเลอร์ชาวผิวสีมาเยอะ อย่าง Lakeview Terrace หรือ Obbsessed มาช่วยอบรมบทหนังให้

รีวิวหนังnetflix 2022

แน่ๆว่า End of the Road เป็นหนังทริลเลอร์โร้ดทริปที่มีสเกลสร้างออกมาเพื่อเสิร์ฟหน้าจอเล็กโดยยิ่งไปกว่านั้น อีกทั้งโปรดักชั่นและก็ส่วนประกอบงานสร้างต่างๆก็มองสเกลไม่ใหญ่นัก บทหนังก็แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ เล่าราวไปเรื่อยแม้ว่าจะซ้ำๆซากๆแต่ว่าก็ยังเป็นเค้าเรื่องที่เล่าได้บันเทิงใจแล้วก็เพลิดเพลินเจริญตลอดเวลาชั่วโมงเศษๆของหนังหัวข้อนี้ เป็นความคลีเช่ที่ยังเอ็นหน้าจอยอยู่ได้

หนึ่งในส่วนประกอบที่ทำให้ End of the Road มองได้บันเทิงใจขึ้นก็คือกลุ่มแคสติ้งดาราหนังของหนัง ที่พูดได้ว่า “ควีน ลาติเตียนฟาห์” เป็นนางหามที่พยุงหนังหัวข้อนี้เอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ที่มิได้แปลกใหม่สำหรับคุณ แต่ว่าการแสดงที่เป็นธรรมชาติในบทเชยแสนเชยของคุณก็นับว่าการแสดงของคุณช่วยสนับสนุนตัวหนังหัวข้อนี้ได้ค่อนข้างจะดี และก็เมื่อได้ “ลูดาคริส” มาช่วยสมทบ ในค้างแรกเตอร์ที่ค่อนข้างจะน่าเบื่อหน่ายสักนิด แต่ว่าทั้งสองก็ผนึกกำลังช่วยเหลือกันประคองหนังหัวข้อนี้ไปตลอดรอดฝั่งอยู่

โดยสรุปแล้ว End of the Road บางครั้งก็อาจจะดูได้ว่าเสมือนนั่งดูหนังทริลเลอร์เชยๆเมื่อตอนสมัยปี 2000s ส่วนประกอบของบทหนังค่อนข้างจะซ้ำจากจำเจไปหมด มีตัวละครที่น่าอารมณ์เสีย มีจังหวะลุ้นที่เดิมๆแม้กระนั้นเมื่อเอามาประกอบรวมๆเข้าด้วยกันแล้ว หนังก็ยังเพลินตามไปได้อย่างน่าแปลกใจ จำเป็นต้องขอบพระคุณกลุ่มผู้แสดงที่่ช่วยหามหนังหัวข้อนี้ออกมาได้น่าดึงดูดเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่มันเกือบจะไม่มีอะไรใหม่เลยก็ตาม แต่ว่าก็ยังดีที่มันลุ้นระทึกแล้วก็บันเทิงใจตามไปได้อยู่