นับได้ว่าเป็นปีที่น่าดึงดูดของสตูดิโอ โซนี่ พิคเจอร์ แอนิเมชั่นที่ยังคงรักษาระดับท็อปฟอร์มของตนเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
ภายหลังที่เมื่อตอนต้นปีที่ล่วงเลยไป พวกเขาเคยทำเซอร์ไพรส์ไว้ภายใน ‘The Mitchells vs. the Machines’ ที่ทำให้พวกเราฮาอีกทั้งน้ำตาเล็ดได้ รวมทั้งมาถึงผลงานปัจจุบันใน “Vivo” พวกเขาก็ยังจัดจ้าสำหรับการสร้างงานออริจินัลของตนเอง ทั้งยังในคราวนี้ยังเพิ่มการเสี่ยง หยอดสไตล์มิวสิคัลที่ค่ายนี้ไม่ค่อยทำสักเท่าไหร่เข้าไป และก็ผลสรุปที่ออกมา…ก็สร้างความแปลกใจให้ผู้ชมอีกรอบ
Vivo เกิดเรื่องราวของคิงติดอยู่จูน้อยแสนพิเศษ ที่ดำเนินชีวิตด้วยการเล่นดนตรีให้ผู้คนที่ลานสี่เหลี่ยมด้านเท่าที่ครื้นครึกจอแจฟังทุกวี่ทุกวันกับผู้ครอบครองสุดรักชื่ออันเดรส แม้ว่าจะกล่าวกันคนละภาษา แม้กระนั้นวีโว่กับอันเดรสก็เป็นคู่คิดที่เข้าขากันเจริญเพราะว่ารักเสียงเพลงแบบเดียวกัน แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เศร้าเสียใจขึ้นไม่นานภายหลังที่อันเดรสได้รับจดหมายจากมาร์ตา ซานโดวัล นักร้องโด่งดังที่ปรารถนาชักชวนคู่ซี้เก่าไปร่วมงานการแสดงดนตรีล่ำลาเวที เพื่อหวังจะสานสมาคมกับเขาอีกที
นั่งก็เลยเป็นหน้าที่ของวีโว่ที่จะจำเป็นต้องไปส่งข่าวสารที่อันเดรสไม่มีจังหวะได้ทำด้วยตัวเอง โน่นเป็นจดหมายรักถึงมาร์ตาที่เขาแต่งเป็นเพลงไว้นานแล้ว แต่ว่าการจะเดินทางไปหามาร์ตาที่อยู่ไกลกันคนละฟากเพื่อสานฝันของผู้ครอบครองให้เป็นจริงได้นั้น วีโว่จำเป็นต้องอ้อนวอนจากแก๊บบี้ สาวน้อยเปี่ยมพลังที่เต้นไปตามจังหวะกลองสุดสติไม่ดีของคุณ การเสี่ยงอันตรายของพวกเขาได้เริ่มขึ้น
ความจริง Vivo ก็เป็นหนังแอนิเมชั่นจุดมุ่งหมายมั้นจะลงโรงฉายตามธรรมดา แม้กระนั้นเนื่องจากพบเหตุการณ์วัววิด-19 เข้าไป ทำให้ค่ายภาพยนตร์ตกลงใจโยกมาฉายในต้นแบบสตรีมมิ่งออนไลน์แทน ซึ่งก็แอบเป็นที่โชคร้ายอีกรอบสิ่งเดียวกัน เพราะว่างานสร้างของหนัง ทั้งยังภาพและก็วิธีต่างๆคงจะเลิศได้มากกว่านี้ ถ้าได้นั่งมองบนหน้าจอใหญ่ๆในโรงภาพยนต์ ทั้งยังซาวด์และก็เสียงดนตรีประกอบก็ติดหูและก็อาจดี หากได้ระบบเสียงดีๆมาช่วยเร้าอารมณ์ไว้
แม้กระนั้น Vivo ก็ไม่ใช่หนังที่มีข้อเสียจำนวนมากอะไรขนาดนั้น ด้วยเหตุว่านับได้ว่าเป็นอีกรอบที่ โซนี่ พิคพบร์ส แอนิเมชั่น ทำเซอร์ไพรส์ให้ผู้ชมอีก แม้หนังจะมากับรายละเอียดรวมทั้งเรื่องราวแบบสูตรสำเร็จเดิมๆทายใจทางได้ง่าย ดำเนินตลอดไปอย่างไม่มีจุดแข็งอะไรมากแค่ไหนนัก แม้กระนั้นความมานะบากบั่นที่จะสร้างความเด่นจากเพลงรวมทั้งจังหวะดนตรีของหนังหัวข้อนี้ จัดว่า…เวิร์ค! หนังทำเป็นเสร็จดังที่หวัง
แน่ๆว่าพวกเรารู้ๆกันดีอยู่แล้วว่า หนังการ์ตูนขับร้องขับร้อง ที่มองเห็นเป็นประจำก็คงจะมีเพียงแค่สตูดิโอใหญ่ๆที่เดียวที่ชอบสร้างออกมา ค่ายอื่นไม่ค่อยกล้าเอาไปแข่งขันเท่าไร แม้กระนั้นประสิทธิภาพของ Vivo นั้น สามารถทำออกมาได้ดิบได้ดี เพลงหลายเพลงที่แต่งขึ้นมาเฉพาะใช้กับหนังประเด็นนี้ ฟังติดหูและก็น่าดึงดูดมากมายๆแน่ๆว่าเพราะเหตุว่าได้เจ้าพ่อมิวสิคัล “ลิน มานูเอล ไม่แรนดา” มาช่วยเขียนให้ขนาดนี้ ผลงานที่ออกมาก็เลยเป๊ะมากมายจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นเพลง “One Of A Kind”, “Mambo Cabana”, “Love’s Gonna Pick You Up” และก็ที่ติดหูสุดๆก็จะต้องชูให้ “My Own Drum” ที่จังหวะได้ กลิ่นเคป็อปโชยมา ทั้งยังเพลงต่างๆยังเพราะอีกทั้งเวอร์ชั่นต้นฉบับ รวมทั้งเวอร์ชั่นบรรยายเสียงไทยเลย ซึ่งภาพรวมแล้วนี่แปลงเป็นแอนิเมชั่นที่มีเพลงประกอบที่เด่นมากมายๆอีกหนึ่งเรื่องเลยก็ตาม (ถึงแม้บางทีอาจจะร้องตามยากไปหน่อย แต่ว่าพอเพียงฮัมจังหวะตามไปได้อยู่)