Blasted หนัง Netflix จากประเทศนอร์เวย์ แนวไซไฟคอมเมดี้ ลำดับที่สองชายหนุ่มกลุ่มปืนเลเซอร์เพนท์บอลไปพบพบเอเลี่ยนที่ลือกันในป่า ก่อนที่จะบุกตะลุยป่าดงเอเลี่ยนด้วยปืนเลเซอร์เกม
หนังเกรด C โลวคลาสมากมายๆด้วยพล็อตห่วยแตกๆตัวเรื่องไม่สมเหตุผล มานะจะขบขัน แต่ว่าออกแนวโง่เขลาเบาปัญญาปัญญาอ่อนมากยิ่งกว่า ผ่านได้ผ่านเลย นี่เป็นหนัง Netflix ที่มากกว่าไม่ดี แต่ว่าถ้าเกิดคุณจะมองเพียงแค่ฆ่าเวลาก็เปิดได้น่าฟังมีบรรยายไทยมาให้พร้อมนะครับ
อีกหนึ่งหนังเกรดบีทุนต่ำสุดๆของ Netflix ที่ยังขยันทำออกมาสม่ำเสมอ ซึ่งในเกรดบีของโรงหนังนี่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความคิดดีๆประหลาดแต่งบน้อยเลยทำออกมาตามภาวะที่จำกัด แต่ว่ากับเกรดบีของเน็ตฟลิกซ์นี่ราวกับตรงกันข้าม เป็นหนังที่ทำออกมาโดยไม่มีเค้าโครงเรื่องหรือไอเดียอะไรใหม่เลย เพียงแค่มีทุนมาให้ทำก็ทำส่งๆไป ทำให้ผลงานในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์แปลงเป็นหนังคุณภาพไม่ดีมากมายๆกระทั่งจริงๆคงจะใช้คำว่าเกรด C ของเน็ตฟลิกซ์แทนคงจะดียิ่งกว่า ซึ่งหัวข้อนี้ก็อยู่ในชนิดนี้แหละครับผม
หนังวางมาเป็นแถวขบขันก็จริง แม้กระนั้นเรื่องกลับไม่มีอะไรให้ขำเลยนิดหน่อย ไม่มีเสียงหัวเราะออกมาได้แน่นอนเพราะเหตุว่ามันไม่มีอะไรให้ขบขัน เว้นแต่ความปัญญาอ่อนของเรื่องตั้งแต่พล็อตสองคู่คิดที่ถูกใจเล่นพวกเล่นพ้องเพนท์บอล เลเซอร์เกม แล้วกลับมาพบกันอีกทีในงานสละไม่มีคู่ของสหาย แม้กระนั้นเปลี่ยนมาเป็นจำต้องพบเอเลี่ยนสิงคนภายในป่า ก็เลยใช้ปืนนี้แหละเป็นอาวุธที่ไล่ยิงแล้วดันสำเร็จ เอเลี่ยนดันแพ้เลเซอร์แบบไร้เหตุผลอะไรรองรับเลย ทั้งยังเรื่องเอเลี่ยนเป็นตัวทึ่มๆที่เอฟเฟ็กต์ที่ตรงนี้ก็ไม่ลงทุน เพียงแค่ทำตาเรืองแสงได้จบ นี่เป็นเอเลี่ยนแล้ว อีกทั้งเรื่องเต็มไปด้วยความมักง่ายทุนต่ำ ไม่มีซึ่งความครีเอทใดๆก็ตามทั้งมวล เส้นเรื่องไม่มีอไะรนอกจากสหายในกรุ๊ปถูกจับไปเลยจำต้องบุกตะลุยไปยังรังเพื่อช่วยเพื่อนพ้องออกมา แอ็กชั่นในเรื่องก็ราวกับเล่นขายของ เอเลี่ยนเป็นคนวิ่งเข้าใส่ เขวี้ยงของใส่ตัวนำที่ใช้ปืนเลเซอร์ยิงเล่นเป็นของหวานกรุบกรอบ ช่วงท้ายลงทุนนิดหน่อยให้มีบอสตัวประหลาดราวกับแจ๊บบ้าของสตาร์วอร์ แม้กระนั้นก็มิได้ช่วยทำให้เรื่องดียิ่งขึ้นเลย แถมยังพากเพียรทำภาคต่อในตอนสุดท้ายตบท้ายเอนด์เครดิตอีก
แค่นี้ยังไม่เพียงพอตัวเรื่องยังอุตสาหะจะเล่นเงื่อนดราม่าในกรุ๊ปสหายที่ห่างหายไปแล้วกลับมาเจอกัน ทำให้หมางเมินหรือมีเรื่องมีราวชอบใจมาแต่ว่าสมัยก่อน ซึ่งก็เล่ายืดยาวถึงที่ตรงนี้ กว่าเรื่องจะไปพบเอเลี่ยนก็ขว้างไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว กลางทางก็อุตสาหะให้การเผชิญภัยนี้เป็นการสานสโมสรกลับมาอีกรอบ ซึ่งก็เป็นโครงเรื่องสูตรสำเร็จปกติทั่วๆไปที่น่าเบื่อแบบสุดๆ