[รีวิว] JoJo’s Bizarre Adventure: หนัก+หน่วง

รีวิวหนังthe batman

JoJo’s Bizarre Adventure หรือที่บ้านพวกเรารู้จักกันดีในชื่อ โจโจ้ ล่าผ่านศตวรรษ มังงะระดับตำนาน

ที่คอมังงะปลอดคนไหนไม่รู้แน่นอนด้วยความสนุกสนานจากพลังเหนือธรรมชาติที่เรียกว่า สแตนด์ ตัวร้ายสุดแสนมีเสน่ห์ และก็การต่อสู้ที่ไม่เพียงแค่แอ็คชันหนำใจ ยังมีการใช้กลยุทธหักเหลี่ยมดักทางกันอย่างฉลาดสุดๆปีนี้ได้มีการเอามาทำเป็นหนังคนแสดงโดยผู้กำกับสุดชั่วร้ายที่ข้างหลังๆถูกใจมาดัดแปลงมังงะเป็นหนังอย่าง ไม่อิเกะ ทาเคชิ ซึ่งมีอีกทั้งดีอีกทั้งเฟลคละเคล้าๆกันไป แม้กระนั้นเน้นในสไตล์ชั่วร้ายเลือดสาดเป็นเอกลักษณ์ขอรับ

เพียงพอมาหัวข้อนี้เวลาที่ ไม่อิเกะ รู้ดีว่าจะได้ควบคุม มึงถึงกับหลับไม่ลงไป 3 วันอย่างยิ่งจริงๆ เนื่องจากว่ามันอีกทั้งยากทั้งยังน่าเร้าใจสำหรับการได้ปรับเปลี่ยนมังงะที่มีคนติดตามมากมายและก็เรื่องราวน่าดึงดูดสุดๆอย่างงี้ งานนี้ยังได้ อีระ อิตารุ มือเขียนบทจากหนังสร้างชื่อของไม่อิเกะอย่าง Visitor Q (2001) มารับหน้าที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมังงะภาคที่ 4 ในตอนชื่อ Diamond is Unbreakable มาเป็นหนังคนแสดง ซึ่งที่เลือกภาคนี้เนื่องจากคณะทำงานมองเห็นว่ามีพื้นฐานในประเทศประเทศญี่ปุ่นสูงที่สุด (ภาคอื่นๆมักกำเนิดในต่างแดน)

รีวิวหนัง ภาษาอังกฤษ

ซึ่งแม้ว่าจะเบื้องหลังจะกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นแม้กระนั้นก็เป็นเมืองสมมุติหาดทรายที่ชื่อ โมริโอ อันเป็นเมืองที่มักเป็นเบื้องหลังในเรื่องโจโจ้หลายภาคร่วมกัน ซึ่งสิ่งแวดล้อมมันส่งให้แฟนตาซีมากมายเพราะว่าเสมือนเมืองฝรั่งมากยิ่งกว่าประเทศญี่ปุ่น เวลามองเห็นคนแต่งตัวแปลกๆหรือทำผมทรงแปลกๆพวกเราเลยรู้สึกยอมรับได้ราวหนึ่ง 555 (ก็มันโลกสมมุตินี่ โธ่)

ฟากฝั่งดาราจำต้องเห็นด้วยว่าดึงศิลปินดังๆที่ค้ำประกันความสามารถการแสดงมารวมตัวได้น่าดึงดูดขอรับ ทั้งยัง ยามาซากิ เคนโตะ, ติดอยู่ไม่กิ เรียวโนสุเกะ,มาซากิ โอคาดะ, แมคเคนยู,อิเซยะ ยูสุเกะ,โคมัตสึ นานะ แม้กระนั้นด้วยความเป็นภาคเกริ่นนำ ก็เลยทำให้บทของบางผู้แสดงยังมิได้มีพื้นที่ให้เล่นเท่าไรนักอย่าง นานะ ที่รับบทบาท ยูค้างโกะ หญิงสาวตัวหลักของภาคที่สะดุดตาในทุกซีนที่ออก แต่ว่าเรื่องก็ยังไม่เล่าอะไรบ้างที่อยู่ในส่วนคุณเท่าไรนักจนกระทั่งโชคร้าย ซึ่งที่ตรงนี้ยังมีผลถึงนักแสดงอีกหลายตัวที่จะมีหน้าที่จริงๆในภาคถัดไป มันเลยมองกั๊กๆพอควร ส่วนพวกตัวหลักก็นับว่ารับปัญหาหนังจากมังงะได้ดิบได้ดีขอรับ พากเพียรเป็นตัวละครแฟนตาซีก้าวหน้า ซึ่งก็ยากจะให้เรียลล่ะนะอย่างที่บอก เอาเพียงแค่ทรงผมพวกเราก็เชื่อยากแล้วว่าจะมีคนแบบงี้ในชีวิตจริง ฉะนั้นก็นับว่าเอาอย่างหน้าที่ก้าวหน้าแล้วนะครับ

ด้วยความกั๊กๆนี่ล่ะขอรับ เลยเปลี่ยนเป็นปัญหา เนื่องจากหนังจะต้องเลือกตัดตอนหนึ่งของมังงะภาค 4 นี้มาเล่า ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าตัดตอนมาได้พอดิบพอดีเลยครับผม แถมมีการปรับรายละเอียดให้กระชับตัดนักแสดงเสริมแล้วก็เหตุการณ์ให้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วย โดยเล่าจบถึงข้อสรุปของตัวร้ายตัวแรกที่นำลูกศรเข้ามาสู่เมือง แล้วทิ้งเงื่อนตัวร้ายหลักจริงๆไว้ให้ติดตามต่อ แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือการเล่าเรื่องไม่แม่นพอเพียงครับผม ว่ากันตามจริงเป็นมีตอนเหนียวหนืดเมื่อยล้า บอกมากมายเกินเหตุ แล้วก็ทิ้งเงียบมากเกินธรรมดาไปหลายฉาก ยิ่งฉากท้ายที่สุดร่ำรี้ร่ำไรสุดๆเป็นความยาวของหนังที่กำลังดีมีความคิดว่าตัดลงมาได้อีกสัก 20 นาทีเลยขอรับ

อีกหัวใจหลักที่มีความรู้สึกว่าหนังยังทำเป็นไม่ถึงฉบับมังงะ เป็นเสน่ห์ของปัญหา ความไม่รู้ ในมังงะความรู้ความเข้าใจของพลังพิเศษของแต่ละนักแสดงนี่จัดว่าเป็นความลับให้จำเป็นต้องงงงวย กระทั่งตัวนำเบาๆใช้ความมีไหวพริบกระทั่งหาพบว่าในความเป็นจริงแล้วความรู้ความเข้าใจนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ แล้วก็ใช้การแก้เกมกลับอย่างเหนือชั้น โดยในหนังมีอย่างที่ว่านะครับ แม้กระนั้นไม่คมเพียงพอ จังหวะที่ต้องการเฉลยคำตอบผู้แสดงก็เปิดเผยความรู้ความเข้าใจตนเองมาชัดแจ้งเลย เวลาที่บางความรู้ความเข้าใจโดยยิ่งไปกว่านั้นของผู้แสดงนำชายพวกเราก็มีกรอบกฏเกณฑ์ที่มึนงงๆกำกวม อย่างว่าเพียงแค่สามารถซ่อมได้ หรือเปลี่ยนแปลงสสารใหม่ได้เลย ซึ่งเกิดขึ้นกับการจัดการตัวร้ายตัวหนึ่งในหนังขอรับ เป็นยังมีปัญหาสำหรับเพื่อการชี้แจงเรื่องพลังในเรื่องพอเหมาะพอควรขอรับ รวมทั้งมีความคิดว่าจะยิ่งคือปัญหาในภาคถัดไปแน่นอนเนื่องจากว่าพลังสแตนด์ของผู้แสดงบางตัวมันปรับปรุงเป็นร่าง 2 ร่าง 3 ได้ด้วย โน่นล่ะยิ่งงงเต็กหนักแน่นอน