เดือน: กรกฎาคม 2022

เดี๋ยวนี้พูดได้ว่าซีรีส์จีนมาแรง ร่วมใจบุกดินแดนมังกร สำหรับซีรีส์สุดโรแมนติกอย่าง “Weaving a Tale of Love ตำนานรักช่างเครื่องนุ่งห่ม”

แสดงนำโดย 2 ดาราสุดฮอต มากมายความสามารถ แล้วก็เป็นที่รู้จักมากมายก่ายกอง กู่ลี่ท้องนาจา และก็เปิดเผยสิงเจี่ยน ซึ่งนอกจากความโรแมนติกของซีรีส์ประเด็นนี้ ยังพ่วงมาด้วยแนวย้อนยุค รวมทั้งมีแทรกสอดความเพลิดเพลินแนวสอบสวนเล็กๆมาอีกด้วย พูดได้ว่าครบรส ฟิน อินเต็มที่แน่ๆ!

เกิดเรื่องราวในรัชสมัยของพระราชาธิราชไท่ควร (627-649) นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมัยที่ความก้าวหน้า หลิวหลี (สวมบทโดย กู่ลี่ทุ่งนาจา)เด็กผู้หญิงที่ตกทอดความสามารถพิเศษอันเหมาะสมที่สุดของแม่สำหรับเพื่อการถักทอเย็บปักผ้า ที่เมื่อครั้งตอนคุณยังวัยเด็กแม่ของคุณตกอยู่ในอันตราย ก็เลยได้ฝากคุณไว้กับเพื่อนเก่าในวังเพื่อหลิวหลีได้มีชีวิตรอด ถัดมาหลิวหลี ได้ปลอมตัวโดยใช้ชื่อใหม่ว่า แพทย์เพื่อนโต้วจือ เพื่อรอแสวงหาข้อเท็จจริง รวมทั้งล้างมลทินเกี่ยวกับคดีของแม่ของคุณ ทำให้ได้เจอกับเปิดเผยสิงเจี่ยน (เล่นบทโดย สวีเว่ยโจว) คนที่ช่วยทำให้คุณรอดพ้นจากอันตราย ท้ายที่สุดทั้งคู่ได้ตกลงร่วมมือกัน แล้วก็ความนานทันทีให้กำเนิดเป็นความรักของทั้งคู่คน

เป็นซีรีส์ที่ประทับใจมาก แค่เพียงเริ่มมองไปไม่กี่ตอนก็ทำเอาพึงใจไม่ได้อยากต้องการลุกไปไหนเลย เพราะเหตุว่าการเดินเรื่องกระชับ จับหลักสำคัญได้ไวมีการวางปม รวมทั้งคลี่คลายอย่างมีเหตุผล แม้ว่าการเดินเรื่องจะกระชับ แม้กระนั้นเบาๆไล่ลำดับรายละเอียดอย่างกลมกล่อมละมุนละไม มีจุดไคลแมกซ์ให้ได้ทราบสึกถึงความพีคไม่ราบเรียบกระทั่งเกินความจำเป็น ในส่วนดารา มีคุณภาพมากมายอีกทั้งฉากตอนเด็กแล้วก็ตอนโต แสดงได้ถึงอารมณ์ รวมทั้งน่ายกย่องในทุกๆนักแสดง ไม่ว่าจะออกมาน้อยหรืออกมามากมายแม้กระนั้นสมหน้าที่ทุกผู้แสดงจริงๆ

เกริ่นมาครู่หนึ่งราวกับรายละเอียดจะหนักเหลือเกินหรือไม่ จริงๆมิได้หนักขนาดซีรีส์ที่เป็นแถวสอบสวน แม้กระนั้นประเด็นนี้จะมีหัวข้อดราม่า ภูมิหลังของเงื่อนแล้วก็ปัญหาที่เกิดขึ้นให้พวกเราได้อินร่วมกับดารา ซึ่งมันก็จะสลับไปกับความโรแมนติกของคู่พระ-นางที่หวานละมุน พอเพียงอยู่ร่วมกันที่ไรก็ทำให้โลกแจ่มใสขึ้นมาในทันที มันเลยทำให้ประเด็นนี้ไม่หนักดราม่าเหลือเกิน สลับอารมณ์ได้กลมกล่อมละมุนละไม

ส่วนประกอบฉาก ภาพ แสงสว่าง สี เสียง ทำออกมางดงาม อย่างตัวบทบาทของดาราหนังที่เป็นช่างปักลายผ้า ก็มีเนื้อหาความสวยของลายเสื้อผ้ามาให้ได้ดูกัน รวมทั้งจุดบางส่วนของการปักผ้าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม การเลือกสีของเสื้อผ้านักแสดงหลักมีความดึงดูดสายตาออกมาได้อย่างเห็นได้ชัด เป็นการจัดสีและก็ส่วนประกอบได้อย่างเหมาะควร ซึ่งบอกได้เลยว่าพลาดมิได้ที่จะเข้าไปรับดู ทั้งยัง Movie.TrueID ยังมีต้นแบบบรรยายไทยอัปเดตให้ได้รับดูกันอีกด้วย

ถึงคิวของหนังเขย่าขวัญเรื่องปัจจุบันจากฮอลลิวูดที่ได้ยินว่าได้รับเสียงวิภาควิจารณ์ที่ออกจะสวยสดงดงามถูกใจพอสมควรทีเดียว

นี่เป็น “The Black Phone สายหลอน หลบซ่อนวิญญาณ” ที่มาพร้อมทั้งความก้ำกึ่งระหว่างหนังผีกับหนังเขย่าขวัญ กับการเซ็ตฉากออกมามองวินเทจที่น่าดึงดูดพอได้ กับปัญหาเสียงปลายสายจากโทรศัพท์สีดำเครื่องเก่าๆมันจะเชิญหลอนน่ากลัวกันสักขนาดไหนเชียวนะ?

The Black Phone สายหลอน แอบซ่อนวิญญาณ กล่าวถึงเรื่องราวของ ฟินนีย์ ชอว์ เด็กผู้ชายประหม่าแม้กระนั้นฉลาดมากจริงๆ วัย 13 ขวบ ที่ถูกไอ้มืดผลักลักพาตัวไปขังอยู่ภายในห้องใต้ดินเก็บเสียง ที่ซึ่งผู้กระทำรีดร้องไม่เกิดคุณประโยชน์ ขณะที่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณที่ติดอยู่ตรงฝาผนังเริ่มแผดเสียงดังขึ้นมา ฟินนีย์ก็ศึกษาและทำการค้นพบว่าเขาสามารถได้ยินเสียงของเหยื่อคนก่อนๆของมัน และก็เหยื่อพวกนั้นก็ตั้งประณิธานเอาไว้ว่าจะก่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่กับพวกเขาจำเป็นที่จะต้องไม่เกิดขึ้นกับฟินนีย์

แล้วก็นี่เป็นงานดูแลแล้วก็เขียนบทของ “สก็อต เดอร์ริกสัน” ผลงานที่เขาตกลงใจเลือกที่จะสร้างแทนที่จะไปควบคุมภาคต่อของแพทย์แปลกให้มาร์เวล โดยหนังหัวข้อนี้ถือเอาพล็อตเรื่องมาจากเรื่องสั้นของ “โจ ฮิลล์” มาขยายความเป็นหนังเขย่าขวัญสุดระทึก ภายใต้เบื้องหลังที่เป็นสังคในตอนสมัยปี 1970s ที่มาพร้อมทั้งบรรยากาศที่ชักชวนอยากนอนแล้วก็เชิญหลอนน่ากลัวไปพร้อมเพียงกัน ถึงแม้ว่าส่วนประกอบหลานอย่างในหนังหัวข้อนี้จะซ้ำซากจำเจอย่างยิ่ง กลับมีกิมไม่กที่ทำให้มองจบแล้วบันเทิงใจได้

การเล่าเรื่องของ The Black Phone อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอีกทั้งจุดที่ดีแล้วก็จุดที่ไม่ดีคละเคล้ากันไปตลอดทาง เพราะเหตุว่าในแกนของความเป็นหนังเขย่าขวัญ หนังก็สามารถสร้างบรรยากาศและก็แรงกดดันผ่านนักแสดงมายังผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าก็กลับยังลืมเล่าอีกหลายๆส่วนที่คงจะเติมเต็มได้มากกว่านี้อีกหน่อย ส่วนในแกนสังคมและก็ครอบครัวที่เสมือนจะปูทางมาค่อนข้างจะพอได้ทีเดียว แต่ว่าก็แปลงเป็นว่าหนังยังพาผู้ชมไปถึงเรื่องต่างๆได้ไม่สุดเลยสักทางอยู่ดี เสมือนถูกทิ้งไว้ระหว่างทางหลายครา

ถึงกระนั้นแล้ว โทนรวมทั้งจังหวะของ The Black Phone ก็มิได้เสียรูปเสียทรงแบบ เนื่องจากหนังยังค่อนข้างจะเล่าได้สนุกสนาน บนฐานรากของสูตรสำเร็จแบบที่เคยได้เห็นมาก่อน ระยะแรกๆที่เป็นการปูเรื่องบางทีก็อาจจะออกจะยืดไปนิดหน่อยกับความจำเจที่ชักชวนหลับอย่างยิ่งจริงๆ แต่ว่าเพียงพอหนังจับทางได้แล้วก็ไปสู่หลักสำคัญที่เป็นแก่นแท้ของเรื่องได้แล้ว ก็จัดว่าไหลลื่นและก็ไปได้ชำนาญตลอดทาง ไปจนกระทั่งไคลแม็กซ์ตอนสุดท้ายของหนังที่ผู้ชมจำเป็นจะต้องตบหัวเข่าฉาดให้กับสาแก่ใจ

ถึง The Black Phone จะใส่เนื้อหาและก็ชี้แจงเดียวกับค้างแรกเตอร์นักแสดงต่างๆมาได้แค่เพียงลักษณะผิวเผิน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครนำ อย่าง ฟินนีย์ หรือ ไอ้มือผลัก ที่เป็นคนร้ายของหนังหัวข้อนี้ ทุกนักแสดงมิได้รับการเอาใจใส่สำหรับเพื่อการทำให้ผู้ชมรู้สึกแน่ชัดมากสักเท่าไรนัก ผู้ชมแทบไม่เคยรู้รวมทั้งรู้จักกับพวกเขากลุ่มนี้เลยสักผู้เดียว แม้กระนั้นหากมองดูไปอีกมุมหนึ่ง ราวกับผู้ผลิตก็มิได้อยากให้พวกเราได้แทรกซึมรู้ดีไปถึงกับขนาดนั้น ถ้ามองดูในมุมมองของเหยื่อรวมทั้งคนก่อเหตุที่ไม่ต้องการที่จะอยากเผยอะไรเท่าใด

แล้วก็นี่เป็นงานแสดงหนังใหญ่เรื่องแรกของ “เมสัน เทมส์” ศิลปินเด็กคนใหม่ที่บอกเลยว่าน่าจับตาพอได้ เว้นเสียแต่ฟิคเกอร์ต่างๆในรูปรูปแบบของเขาจะค่อนข้างจะหล่อคมพัฒนาต่อได้แล้ว การแสดงของเด็กหนุ่มคนนี้ก็จัดว่ามาแบบมาดนิ่ง แต่ว่าขมักเขม้นไปด้วยอารมณ์ผ่านอาการได้อย่างดีเยี่ยม มองเห็นแล้วยังสามารถนำไปพร่ำสอนรวมทั้งปรับปรุงมีอนาคนได้อีกไกล

แต่ว่าอีกผู้ที่น่าตบมือให้ไม่แพ้กันเป็น “เมเดอลีน แม็กกรอว์” ที่สาวน้อยคนนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีประสบการณ์ทางการแสดงมามากยิ่งกว่า และก็เปลี่ยนเป็นอีกค้างแรกเตอร์ที๋สะดุดตา แบบที่ผู้ชมละสายตาไปจากคุณมิได้เลย ให้การแสดงออกมาได้เข้มข้นรวมทั้งจัดจ้าอย่างไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นพลังการแสดงของศิลปินเด็ก ชูให้เป็นหนูน้อยที่ได้รับตำแหน่ง MVP ของหนังหัวข้อนี้ไปเลย

ตอนที่ “อีธาน ฮอว์ก” ก็โรคทางจิตได้อย่างมือโปร ได้มือโปรมาจับบทนี้ก็ไม่ต้องจำนวนมากอะไรมากมาย อาศัยเพียงแค่ความชำนาญน้อยแต่ว่ามากมาย แม้กระนั้นออกมาหนก็คือน่าสะพรึงกลัวแล้วก็ทรงอำนาจพอได้ ถึงแม้ว่าหน้าที่นี้ของเขาจะเต็มไปด้วยมิติที่น่าค้นหาไม่น้อย แต่ว่าเกือบจะไม่มีช่องแสงสว่างมากมายสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นครั้งใดก็ตามโผล่ออกมา ก็น่าหวาดเสียวจับจิตจริงๆ

จากนักร้องบอยแบนด์ที่สมัย เปลี่ยนมาเป็นดาราหนังชายหนุ่มมีเสน่ห์ และก็แต่ละวันเขาก็เปลี่ยนมาเป็นอีกหนึ่งคนสร้างภาพยนตร์ที่คลอดผลงานใหม่ๆออกมาเสริมแวดวงภาพยนตร์ไทยเสมอ

รวมทั้งนี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “ดินแดน วรเวช” ที่ยังรักษาคอนเซ็ปต์แนวความคิดแล้วก็ความเป็นตัวของตัวเขาเองได้แก่เดิม พิจารณาออกมาเป็น “ทวงคืน Fearless Love” หนังรักในจังหวะเพลงของความเฮี้ยน ที่ยอมรับสารภาพตรงๆว่าช่วงแรกที่หนังโปรโมโคนอกมา ก็ยังงงอยู่ว่าจะเป็นหนังรัก ภาพยนตร์ตลก หรือหนังบู๊ แม้กระนั้นท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นหนังผีจ้าาาาา…คุณผู้ชม

ทวงคืน เกิดเรื่องราวของคู่ชีวิตยูทูบเบอร์ พลอย กับ ดิน คู่ชีวิตที่คนไม่ใช่น้อยอิจฉาริษยาเยอะที่สุดในประเทศ แต่ว่าความรักของพวกเขากำลังดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย! กับการบอกเลิกออกสื่อที่จะช็อกกึกก้องประเทศ เมื่อรับงานท้ายที่สุดจากผู้สนับสนุนที่จำเป็นจะต้องแกล้งรักหลอนๆก่อนที่จะตั้งอกตั้งใจเลิกกันไปเนียนๆในคลิปบอกลา และก็ซึ่งก็คือจุดกำเนิดของการเสี่ยงอันตรายสุดวายป่วงและก็สยดสยองพองขนที่จะเกิดขึ้นรอบกายพวกเขา

ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่า ทวงคืน เป็นหนังที่ทำให้พวกเราทราบงงงันเล็กๆว่าตกลงมันเป็นหนังอะไรกันแน่ ตัดคราวเซอร์ออกมาตอนแรกราวกับจะเป็นรอมคอม หนังออกมาอีกตัวมีกลิ่นหนังบู๊ แม้กระนั้นเพียงพอใบปิดโผล่ออกแค่นั้น สรุปว่าเป็นหนังผี เป็นหนังที่แกงฟิลลิ่งผู้ชมได้ตั้งแต่ยังมิได้ออกฉาย แล้วก็ผลที่ออกมานั้น…ไม่แกง แต่ว่าแทบจะแปลงเป็นความเละเทะปนเปทนมองไปตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของเรื่องที่แสนสุรุ่ยสุร่ายเกินความจำเป็น

แน่ๆว่า ดินแดน วรเวช มารับหน้าที่อีกทั้งควบคุมแล้วก็เขยนบทหนังหัวข้อนี้เอง โดยเขาจับเอาคอนเซ็ปต์ที่สังคมชอบแอบเย้าแหย่เขาเกี่ยวกับความเกี่ยวพันระหว่างแฟนสาวในชีวิตจริง อย่าง “แพทตี้ อังศุมาลิน” ที่เอาจริงเอาจังๆนะ เพียงแค่การคิดถือเอาหัวข้อนี้มายกเป็นหนังก็จัดว่าไอเดียที่สุดยอดก็ดี เป็นอะไรที่ท้าและก็เล่นกับสังคมกรุ๊ปหนึ่งได้อย่างน่าลิ้่มลอง เพียงการตีปัญหารวมทั้งพรีเซนเทชั่นของหนังจะออกมาคืออะไรเพียงแค่นั้นล่ะ

ซึ่งท้ายที่สุดก็คือ ทวงคืน เป็นหนังที่ถือเอาหัวข้อดังที่กล่าวมาแล้วมาใช้ได้แทบไม่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดคุณประโยชน์ใดๆก็ตามในที่สุดมันก็เป็นเพียงแค่คำโปรโมตของหนังคำเดียวเพียงแค่นั้น เพราะว่ารายละเอียดในหนังได้ฉีกไปอีกเกือบจะ เต็มไปด้วยส่วนที่ขาดๆเกินๆบางจุดก็ล้นเจิงท่วม กับจังหวะที่ใส่เข้ามาแบบทีเล่นทีจริง ไม่อาจจะหาจังหวะไหนที่จะหัวเราะได้เต็มดูด หรือซึ้งสะกิดใจได้เลยสักเลย เปลี่ยนเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความสะเปะสะปะ ใส่กลิ่น (tone) และก็แนวทาง (setting) ไปทางสากล แต่ว่าไม่ทำให้เกิดจุดหมายที่การบรรลุเป้าหมายได้สักทาง

งานดูแลรวมทั้งออกแบบต่างๆของทวงคืนนั้น นับว่ายังให้ผ่าน วางแบบมาได้ค่อนข้างจะพึงพอใจ แม้กระนั้นหนังมาตกม้าตายทุกหนกับการใส่จังหวะที่ยุ่งยากใจตลอดทั้งเรื่อง ซ้ำยังเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นติดอยู่แรกเตอร์ของแต่ละนักแสดงก็ตามบิ้วท์ทำให้มองน่าเบื่อใจมากๆจะบอกตามจริงเลยว่า ตอนครึ่งแรกของหนังนั้นราวกับเป็นการจับผู้ที่เอาแต่ใจ อีกทั้ง 3-4 คนมาใส่เอาไว้รวมๆกัน แล้วหลังจากนั้นก็โต้แย้งๆคิดๆไปคนละทาง ยิ่งอยู่ในเหตุการณ์ขับขันด้วยแล้ว แทนที่จะบิวท์อารมณ์ให้น่าสะพรึงกลัวกลายเป็นน่าเบื่อแทน

แม้กระนั้นก็ยังดีที่หนังได้โอกาสมนักแสดงที่ช่วยเอาไว้มากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดินแดน-แพทตี้ ที่เป็นคู่สมรสในชีวิตจริงอยู่แล้ว เขาทราบจังหวะแล้วก็การเข้าพบทางแสดงที่ดีของกันและกัน ทำให้ทุกสิ่งมองไหลลื่นดี (ไม่นับอินเนอร์ที่น่าเบื่อของผู้แสดงที่ทั้งสองได้รับนะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านหลังๆกับฉากอารมณ์ที่ทั้งคู่สลับกันติดต่อสื่อสารกันไปๆมาๆ นับว่าทำเป็นออกจะดี แล้วก็น่าจะเป็นส่วนที่เหมาะสมที่สุดในหนังหัวข้อนี้แล้ว แม้กระนั้นก็โชคร้ายว่าข้อเด่นเพียงนิดหน่อยเท่านี้นั้น ไม่สามารถที่จะลบล้างความสะเปะสะปะของหนังลงไปได้

1UP ทีมนี้ชีเฟียส เตรียมเอาไว้ให้พร้อม ถึงเวลาฟิตความแสบ อัพสกิลความฮา แล้วออกไปสตาร์ทให้หมดตัว

กับเหล่าเกมเมอร์ตัวจี๊ดที่จะทำให้แวดวงอีสปอร์ตจำต้องสั่นสะเทือน ในผลงานคอมเมอดี้ ทีนเอจ-ฟีลกู๊ดที่จะมาเพิ่มแพชชั่นให้กับทุกคน 1UP กลุ่มนี้ชีเฟียส

ฉันว่าหนังประเด็นนี้มองได้ทุกคน หนังทำให้มั่นใจว่าพวกเราทุกคนสามารถเป็นเกมเมอร์ในแบบของตนได้ หนึ่งในคำสัมภาษณ์ของผู้แสดงสาว กรุงปารีส เบเรลซ์ ดาราหนังสาวมากเรื่องสามารถจากซีรีส์ Alexa & Katie และก็ Tall Girl ที่กลับมาสร้างความสนุกสนานในบทของ วี เกมเมอร์สาวตัวท๊อป ที่ออกมาสร้างกลุ่มตนเองเพื่อปฏิบัติตามความฝัน

1UP เล่าราวของการรวมตัวเด็กผู้หญิงที่ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา มันเป็นการแสดงพลังหญิง มันเป็นเรื่องราวการเดินทางที่สวยของเด็กสาว ที่เชื่อมโยงกันและกัน และก็เล่าว่ามันยากเพียงใดที่หญิงจะยืนหยัดขึ้นมาในแวดวงที่ชายยิ่งใหญ่ รูบี้ โรส หนึ่งในดาราหนังสาวมาดหรู John Wick: Chapter 2 ที่คราวนี้จะขอกลับหน้าที่มาสวมบทผู้ฝึกสอนมากเรื่องสามารถ ที่จะมาทำให้ฝันของกลุ่มเป็นจริง

1UP เป็นผลงานคอมเมอดี้ ทีนเอจ-ฟีลกู๊ด ผลงานการควบคุมของ ไคล์ นิวแมน เจ้าพ่อหนังวัยรุ่นจาก Barely Lethal แล้วก็ Fanboys ที่จะมาถ่ายทอดความสนุก สร้างพลังบวกของเหล่าบรรดาเกมเมอร์มือใหม่ ที่มีพลังในหัวใจเกินร้อย ทุกคนเป็นเกมเมอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง ไม่ลเลเนียม บูมเมอร์ เจนซี คนไม่สมประกอบ คนธรรมดา หรือเพศโอกาส เนื่องจากมันเป็นกิจกรรมผูกมิตร และก็ยังช่วยลความตึงเครียด สร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่น มันเป็นโลกที่น่าดึงดูดมากมาย

นี่นับว่าเป็นหนแรกบนโลกภาพยนตร์ที่ผสมความมันส์ ตื่นเต้นของกีฬา E-Sport และก็เสียงหัวเราะ ความสนุกสนานแบบหนังคอมเมอดี้-ฟีลกู๊ดไว้ร่วมกัน ผ่านเรื่องราวมิตรภาพของ วี (กรุงปารีส เบแรลค์) นักกีฬา E-Sport มือโปรที่ความสามารถไม่ธรรมดา จนถึงไปสะดุดตาได้ทุนเรียนมหาลัย และก็ร่วมเป็นเลิศในสมาชิกกลุ่มเบตาส์ กลุ่มใหญ่ประจำสถาบัน กลับใช้การดูแลแบบชายยิ่งใหญ่ โดยมี เบตาส์ ดัสติน (เทย์เลอร์ ซาคาร์ เปเรซ) ผู้เป็นกัปตันกลุ่มที่รอแกล้งทำให้วีกลายเป็นตัวสำรองตลอดมา เมื่อถูกหมิ่นในเกียรติ วีก็เลยขอกู้มันคืน พิสูจน์ตนเองด้วยการออกมาฟอร์มกลุ่มหญิงล้วน ศูนย์รวมสมาชิกสาวสายแซ่บอย่าง สโลน (ฮาริ เนฟ) และก็พาร์คเกอร์ (รูบี้ โรส) ผู้ฝึกสอนสาวมาดหรู คนที่จะนำพากลุ่มของคุณไปสู่จุดมุ่งหมายระดับประเทศ และก็ล้มกลุ่มเบตาส์ให้เสร็จ

เมื่อเกียรติยศถูกเย้ยหยัน แล้วก็พลังบ้าถึงจุดสูงสุด ถึงเวลาเปิดวอร์สังเวียนที่เกียรติ ของกลุ่มเกมเมอร์ตัวป่วน ที่จะมาปลุกทุกฝัน สร้างทุก Passion ให้ชีวิตนี้ไม่มีคำว่า เกมโอเวอร์ 1UP กลุ่มนี้ชีเฟียส 21 กรกฏาคมนี้ ยืนขึ้นเฟียสพร้อม ในโรงหนัง

ไมลส์ เทลเลอร์ ผู้แสดงมากมายความสามารถจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Top Gun: Maverick

ในหน้าที่ของ กางรดลีย์ รูสเตอร์ กางรดชอว์ ได้ออกมาเผยถึงความน่าจะเป็นที่เหล่าแฟนคลับจะได้เห็นภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง Top Gun 3 กับการกลับมาของ ทอม อาจารย์ซ อีกรอบ

พีท มาเวอริค ไม่ทเชล ในรูปภาพยนตร์เรื่อง Top Gun: Meverick นั้นได้รับการแสดงนำโดยผู้แสดงมากมายความสามารถอย่าง ทอม อาจารย์ซ นั่นเอง ซึ่งเรื่อง Top Gun: Meverick นี้ก็เป็นภาคที่ 2 ที่เป็นภาคต่อจากภาคแรกที่ห่างกันนานถึง 36 ปี แต่ว่าการรออย่างนานถึงสามสิบกว่าปีนี้ก็นำไปสู่การประสบความสำเร็จอย่างมากใหญ่เพราะเหตุว่าในช่วงเวลานี้ Top Gun: Meverick นั้นทำรายได้ทั่วทั้งโลกไปถึงพันล้านดอลล่าห์สหรัฐอเมริกาไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ถือว่าคุ้มสมการรออย่างยิ่งอย่างยิ่งจริงๆ

สำหรับการคุยกับทางสื่อ ET Online เทลเลอร์ได้ออกมาบอกถึงเรื่องราวที่มีลัษณะทิศทางในความน่าจะเป็นที่เหล่าแฟนคลับจะได้เห็นภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง Top Gun 3 รวมทั้งเขาได้กล่าวอีกว่า เขาได้เสวนาหัวข้อนี้ ทอม อาจารย์ซ มาแล้ว โดยที่ตัวเขาได้กล่าวเกี่ยวกับการบรรลุผลของภาพยนตร์หัวข้อนี้กระทั่งทำให้มีความน่าจะเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะมีการพูดจากันในอนาคตเกิดขึ้นเกี่ยวกับภาคต่อ

มันจะเด็ดมากๆนะครับถ้าเกิดจะมีภาคต่อ ทั้งหมดทุกอย่างมันขึ้นกับ ทอม อาจารย์ซ เลยน่ะขอรับ ผมได้สนทนาหัวข้อนี้กับเขามาแล้วด้วย แล้วรอติดตามกันครับ

การประสบความสำเร็จอย่างมากใหญ่ของ Top Gun: Meverick นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีลัษณะทิศทางอย่างยิ่งที่กำลังจะได้มองเห็นภาคที่ 3 กันในอนาคต เพราะว่าไม่มีวันที่ข้างผู้สร้างจะไม่สนใจละเลยสืบต่อการบรรลุเป้าหมายไปอย่างแน่แท้

ไฟลต์เมืองนรกบนน่านฟ้า มหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่จากประเทศเกาหลีลงหยุดที่ไทยแล้ว!

ภาพยนตร์ที่ไม่สมควรพลาดที่สุดของปี 2022 หนแรกของแวดวงประเทศเกาหลีกับการผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์โคตรหายนะบนเรือบิน “Emergency Declaration” ซึ่งทุ่มทุนสร้างมากยิ่งกว่า “Train To Busan ด่วนแดนนรกซอมบี้คลุ้มคลั่ง” ถึง 3 เท่า! ปัจจุบันได้ปลดปล่อยโปสเตอร์พร้อมชื่อไทย “ไฟลต์บ้า ฝ่าแดนนรกชีวะ” ยกฐานะความระทึกไปอีกขั้นกับภาพใบปิดที่ทำให้พวกเราได้มองเห็นบรรยากาศข้างในเครื่อง เมื่อมีผู้โดยสารเสียชีวิตอย่างปัญหา บนเที่ยวบิน KI501 จากโซลไปฮาวาย ทำให้กัปตันจะต้องประกาศขอลงหยุดรีบด่วน ถ้าว่า “เรือบินลำนี้ มิได้รับอนุญาตให้ลงหยุดที่แห่งใดทั้งหมด”

รวมทั้งดาราที่มาร่วมฝ่าฝ่าวิกฤตหนีตายบนเรือบินในคราวนี้กล่าวได้ว่าเป็นเหล่าผู้ผลิตการเกิดกลับภาพยนตร์ประเทศเกาหลีสู่สายตาชาวโลก ไม่ว่าจะเป็น ซงคังโฮ ผู้ผลิตชื่อจาก Parasite และก็BROKER ภาพยนตร์ประเทศเกาหลีเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์ อีบยองฮอน ดารานำชายเจ้าหน้าที่จาก G.I. Joeแล้วก็Ashfall ทุกโปรเจกต์บล็อกบัสเตอร์ควรจะมีเขา แล้วก็ จอนโดยอน ผู้แสดงฝ่ายหญิงมากมายฝืมือที่ได้รับเกียรติยศให้เป็นผู้ตัดสินในเทศกาลภาพยนตร์นานาประเทศคานส์ครั้งที่ 67 แล้วก็เป็นผู้แสดงประเทศเกาหลีคนแรกที่ได้รับรางวัลจากเวทีนี้ ร่วมด้วยกองทัพดาราหนังยอดความสามารถที่คุ้นตาชินตาอาทิเช่น คิมนัมกิล (Pandora) อิมชีวีน (Strangers From Hell) คิมโซจิน (Escape From Mogadishu) รวมทั้ง พัคแฮจุน (The World of the Married)

รีวิว มนตรา Incantation หนังผีไต้หวันแนวเรียลฟุตเทจที่น่าสะพรึงกลัวจริง แม้กระนั้นพล็อตแทบก็อปเดอะริง

มนตรา Incantation หนังไต้หวันที่เข้าโรงมีนาคม 2022 แล้วทำรายได้สูง ก่อนที่จะเน็ตฟลิกซ์จะซื้อมาฉายทั่วทั้งโลกในเวลานี้ เล่าราวของม่าม้าที่โดนคำสาปแช่งแล้วอุตสาหะช่วยลูกโดยการเล่าเรื่องผ่านคลิปในโลกอินเตอร์เน็ตให้คนอื่นๆได้รับทราบ

เป็นหนังผีที่น่าสะพรึงกลัวจริง ฉากเรียลฟุตเทจก็ทำเป็นดี (แม้ว่าจะมองเฟคๆมากมาย) แม้กระนั้นมามีปัญหาสำคัญๆกับการเล่าเรื่องตัดสลับทำให้เรื่องมองยากแบบไม่เหมาะ แล้วถ้าหากนับความคล้ายคลึงกับโครงเรื่องกับคอนเซ็ปต์ของเดอะริงด้วย ทำให้แฟนคลับเดอะริงอาจจะไม่ยินดีกับหัวข้อนี้นักครับผม

ตัวเรื่องทำมาเป็นแถวสมมุติเรื่องผ่านเรียลฟุตเทจจากกล้องถ่ายภาพให้เสมือนความเป็นจริง ก็แบบแนวคนทรงเจ้าหรือเก่าๆเลยก็ The Blair Witch Project ผสมกับไอเดียแนวเรื่องของ The ring คำสาปแช่งมรณะผ่านวิดีโอเทป ซึ่งถ้าเกิดผู้ที่ไม่เคยมองเดอะริงมาก่อนก็อาจแอบว้าวบันเทิงใจไปกับโครงเรื่องที่เริ่มเตือนผู้ชมว่านี่เป็นคำแช่ง หากมองกับเข้าใจจะล้มเหลว ซึ่งมันสำเร็จยั่วผู้ชมให้ต้องการมองได้แน่ๆ แม้กระนั้นสำหรับผู้ที่เคยมองเดอะริงมาแล้วการที่เรื่องเริ่มต้นก็อปกันมาตรงๆอย่างนี้เป็นอะไรที่รู้สึกเฟลขึ้นมาโดยทันที และไม่ใช่เพียงแค่เริ่มราวกับ ช่วงท้ายคลี่คลายเงื่อนก็ยังมาแนวเดอะริงอีก ชี้ให้เห็นว่าอันที่จริงแล้วประเด็นนี้ก็ไม่ใช่พล็อตหรือความคิดใหม่เลย แม้กระนั้นแค่นำเอาแนวเรียลฟุตเทจมาผสมกับเดอะริงให้ออกมาเกิดเรื่องนี้แค่นั้น

สรุปว่าถ้าหากตัดเรื่องพล็อตเสมือนเดอะริงออกไป ว่ากันด้วยเรื่องคุณลักษณะเด่นของประเด็นนี้ก็มีอยู่ ด้วยการครีเอทฉากเรียลฟุตเตจสยดสยองๆไว้ล้นหลามอีกทั้งเรื่อง เป็นหนังที่เรียกว่าย้ำตัดเรียลฟุตเทจฉากสยดสยองๆลึกลับน่าสยองมาให้มองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งยังความแหวะของสิ่งที่ถ่ายมาอย่างหนอนเยอะมาก น้ำเหลืองเหลวๆบนตัว ฉากรังควานตนเองเพราะว่าโดนคำแช่งแบบสยดสยองๆหรือแนวผีซึ่งมีก็เพียงแต่เด็กเห็นก็ใช้หลายครั้ง ฉากศาลเจ้าจีนทวีปเอเชียที่เป็นเมนหลักของเรื่องมองอย่างไรก็น่าสยองแต่ก่อนอยู่แล้วด้วยยิ่งเพิ่มความสยดสยองเข้าไปอีก ฉากตุ้งแช่ก็ทำเป็นดียิ่งกว่าเรื่องอื่นๆเรียกว่าคนใดขวัญที่ขี้กลัวมองประเด็นนี้บางครั้งอาจจะรับไม่ไหวเลยก็ได้ เป็นหนังที่สร้างกับเสิร์ฟจุดขายนี้ด้วยเรียลฟุตเทหน้าจออกมาเจริญกระทั่งจะต้องดู

เป็นหนังผีที่น่าสยองจริง ฉากเรียลฟุตเทจก็ทำเป็นดี (แม้ว่าจะมองเฟคๆมาก) แม้กระนั้นมามีปัญหาสำคัญๆกับการเล่าเรื่องตัดสลับทำให้เรื่องมองยากแบบไม่เหมาะ แล้วหากนับความคล้ายคลึงกับโครงเรื่องกับคอนเซ็ปต์ของเดอะริงด้วย ทำให้แฟนคลับเดอะริงอาจไม่ยินดีกับประเด็นนี้นักขอรับ

The Longest Night (คืนวันนี้ ช้านาน) ซีรีส์ Netflix ขนาด 6 ตอนสุดท้ายจากประเทศสเปน เรื่องราวของคืนคริสมาสต์ในคุกพิเศษ

ศูนย์รวมคนป่วยจิตเวชศาสตร์ไว้กับผู้ต้องขัง “ซีความสงบ” ฆาตกรโรคจิตสุดเหี้ยมโหดอำมหิตถูกส่งตัวมาฝากขังชั่วครั้งคราว แต่ว่าเปลี่ยนเป็นจุดเริ่มของทำการณ์โหดเหี้ยมชิงตัวเขาออกมา ซีรีส์แนวแอ็กชั่นดราม่าในพื้นที่ปิดที่เป็นคุก จำกัดเวลาเรื่องราวในคืนๆเดียว โดยแบ่งตัวละครออกเป็นข้างๆต่อสู้แก่งแย่งอำนาจการนำกัน นักแสดงเทาๆย้ำเอาชีวิตรอดไม่ใช่คนดีทุกคน โดยมีเงื่อนปัญหาว่าตัวร้ายหลักฆาตกรโรคจิตเก็บงำความลับอะไรไว้นำมาซึ่งเรื่องราวช่วงชิงตัวขึ้นมา ซึ่งเรื่องทำออกมาได้กลางในทุกๆด้าน ค่อนข้างจะไปทางดีนิดๆแม้กระนั้นก็ไม่ถึงกับดีเยี่ยม มองเพียงพอเอาบันเทิงใจได้สั้นๆ6 ตอนสุดท้ายฤดูกาล มีต่อฤดูกาล 2 มีบรรยายไทยครบนะครับ

ตัวเรื่องมองผิวเผินราวกับมีความบากบั่นทำในแนวเดียวกับ Money Heist โดยโครงเรื่องเป็นตาราง+โรงหมอที่ถูกผู้ก่อให้เกิดเหตุร้ายไม่เคยทราบข้างมาล้อมไว้ แล้วเรียกร้องให้ส่งตัวผู้ต้องขังที่เป็นฆาตกรโรคจิตตามที่พึ่งโดนจับได้ออกมา โดยมีโทรศัพท์ลึกลับออกมาข่มขู่ว่าจับบุตรสาวของพัสดีผู้แสดงนำไว้เป็นตัวรับรอง โดยจำต้องให้ตัวคนร้ายอยู่ในคุกจนกระทั่งยามเช้าให้ได้ ไม่อย่างนั้นบุตรสาวตาย ทำให้สถานที่ในเรื่องเป็นที่ปิดตาย แล้วก็มีเวลานับถอยหลังจนกระทั่งตอนเช้ากระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์กินเวลาในเรือนจำตามชื่อ คืนวันนี้ช้านาน ตรงตัวเป๊ะๆ

ในประเด็นนี้มีตัวเอกเป็นพัสดีก็จริง แต่เขาก็ไม่ใช่ผู้แสดงที่เป็นผู้แสดงนำชายในเรื่อง ด้วยเหตุว่าตัวเรื่องทำมาในทิวเขาเป็นตัวละครสีเทาๆที่ยอมข้างผู้ก่อวินาศกรรมฆ่าผู้ต้องขังและก็ผู้บริสุทธิ์ไปกล้วยๆโดยอ้างถึงว่าเป็นการทำหน้าที่ตามกฎของคุก ไม่ต่อรองพูดจากับขโมย ข้างนอกมองเป็นคนเข้มตามกฎ แม้กระนั้นจริงๆเป็นยอมฆ่าคนอื่นๆมาตายแทนลูกตนเอง ปกปิดเรื่องจริงว่าโดนขู่เข็ญไว้ไม่บอกผู้ใด แม้กระทั้งข้างผู้ก่อให้เกิดเหตุร้ายเองก็ยังรู้สึกไม่ดีเหมือนปกติที่พัสดีเลือกทางให้ตัวประกันโดนฆ่าแบบงี้ เป็นตัวละครที่ทำให้ประเด็นนี้แอบมองแปลกไม่เหมือนกันกับเรื่องอื่นๆเนื่องจากผู้ชมจะรู้สึกว่าหมอนี่ไม่ใช่คนดีแน่นอนแล้วก็เรื่องผ่านไปก็ยิ่งชี้ให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ผู้แสดงนำชายแน่นอนเนื่องจากว่าการตัดสินใจแต่ละอย่างไม่เมคเซนส์ในมุมผู้ชมมากมาย แม้ว่าจะทราบดีว่าทำไปเพื่อช่วยลูกก็ตาม

The Boys SS3 Amazon prime video ฤดูกาลนี้เล่ากลุ่มเดอะบอยบากบั่นหาทางปราบโฮมแลนเดอร์ โดยการตามหาโซลพบร์บอยที่เป็นอดีตหัวหน้าทีมซูปรุ่นแรกของวอท ก่อนที่จะแปลงเป็นการผลิตหายนะให้แก่อเมริกาแทน

ที่ผ่านๆมาหัวข้อนี้แม้ว่าจะมีฉากแอ็กชั่นชั่วร้ายๆชื่นชอบผู้ชมก็จริง แม้กระนั้นก็มีตอนดราม่ายืดๆกระทั่งแอบน่ารำคาญผสมอยู่มากมายด้วย แม้กระนั้นมาฤดูกาลนี้เป็นเดือด ตัวเรื่องจุดติดความเดือดกันตั้งแต่ทีแรกๆโดยเลือกทิ้งแนวที่โฮมแลนเดอร์โดนแบล็คเมล์กระทั่งยอมสิ้นเรื่องไปในฤดูกาลก่อนๆเปลี่ยนมาเป็นโฮมแลนเดอร์ฤดูกาลนี้เก็บกดกระทั่งไม่สนใจ ไม่แคร์อะไรประมาณนี้อีกแล้ว แบบต้องการเชี่ยก็เชี่ย ประกาศให้สังคมทราบไปเลยว่ากรูเชี่ย ซึ่งกลับแนวจากฤดูกาลก่อนๆไปเลยที่เขามักยอมสนใจอะไรอย่างนี้เพื่อรักษาคะแนนเสียง แม้กระนั้นแปลงเป็นว่าการเผยตัวตนเขี่ยๆออกมากลับเป็นที่นิยมจากคนหัวรุนแรงทุ่งนาซี ซึ่งบทก็ดันให้เรื่องราวในจุดนี้เกี่ยวโยงต่อจากสถานะการณ์ สตรอมตรมฟร้อนต์ ตัวร้ายหญิงที่นาซีจากฤดูกาลที่แล้วที่โดนยำไป ทำให้ภาวะจิตใจของโฮมแลนเดอร์ที่เสื่อมเสียรักไปทนไม่ได้สติพร้อมแตกตลอดระยะเวลา ไม่ว่าใครที่เกี่ยวโยงกับโฮมเดี๋ยวนี้ก็พบความดวงไม่ดีกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้กระทั้งประธานวอทที่มองว่าจะเอาโฮมอยู่ก็ยังไม่รอด จบหน้าที่ไปในเวลารวดเร็วทันใจเพียงแค่ไม่กี่ทีแรกๆของเรื่อง เรียกว่าเป็นการทำไพ่ข้อด้อยเดิมๆของโฮมหมดเพื่อนำไปสู่การประจันหน้ากับโซลพบร์บอยที่มีพลังเท่าเทียมโฮมในภาคนี้

โซลพบร์บอยเป็นตัวละครที่ยืมลุคของกับตันอเมริกามาใช้ตรงๆอีกทั้งรูปร่างชุดมีโล่เช่นกัน แล้วก็ที่มาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่เข้ารับการทดสอบยาวี แล้วหลังจากนั้นก็เปลี่ยนมายอดเยี่ยมมนุษย์รับใช้รัฐบาลอเมริกาไปบุกการรบที่ต่างๆเปลี่ยนเป็นวีรบุรุษที่ถูกชื่นชมทุกคนจำได้ แม้กระนั้นโซลพบร์บอยเป็นกับตันอเมริกาเวอร์ชั่นเชี่ยๆไม่แตกต่างจากโฮมแลนเดอร์ บ้าอำนาจพอกัน ซึ่งในแต่ละตอนจะเล่าถึงการตามหาเพื่อนพ้องร่วมกลุ่มโซลพบร์บอยในอดีตกาลที่หักหลังเขา นำมาซึ่งการทำให้มีฉากแอ็กชั่นเล็กๆตามมา แต่ว่าจะมากับความอัปรีย์กวนทีนของตัวเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มโซลพบร์รุ่นก่อนที่แต่ละคนมีรสนิยมกับชีวิตคนแปลกพิกลๆกันทั้งหมด

ในส่วนของกลุ่มเดอะบอยก็อัพเกรดตนเองด้วยการใช้วีแบบใหม่ที่วอทจัดเตรียมประยุกต์ใช้ในทางทหาร ที่ทำให้คนธรรมดาเปลี่ยนเป็นซูปได้ในทันที แต่ว่าส่งผลเพียงแค่วันเดียว ซึ่งบุชเชอร์กับฮิวอี้เป็นผู้ที่ยอมใช้มัน แต่ว่าผู้อื่นไม่เห็นพ้องกระทั่งทำเรื่องราวเปลี่ยนเป็นการแตกหักในกลุ่ม รวมทั้งความข้องเกี่ยวของฮิวอี้กับสตาร์ไลท์ก็มีปัญหาจากจุดยืนขัดแย้งด้วย ซึ่งความเพลิดเพลินก็คือการไ้ด้มองเห็นบุตเชอร์ในพลังซูปที่เหมือนโฮมแลนเดอร์มากมาย แต่ว่าเหี้ยมโหดกว่าตรงเอามาใช้กำจัดซูปตัวอื่นๆอย่างใจร้าย

ในส่วนของนักแสดงอื่นๆก็มีการเติบโตปรับปรุงเส้นเรื่องราวต่างไป อย่าง สส.หญิงที่ระเบิดหัวในฤดูกาลก่อนก็กำลังก้าวขึ้นไปมีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่มโหฬารขึ้นเรื่อยเพื่อกุมอำนาจด้านการเมือง โดยมีบทของฮิวอี้เข้ามาเสริมนิดเดียวจากช่วงท้ายที่เข้าไปปฏิบัติงานในหน่วยงานดูแลซูปส์ของรัฐบาล แม้กระนั้นบทที่ตรงนี้ก็ไมได้มีมากมายเพียงแค่เริ่มๆเพราะเหตุว่าเรื่องก็พาให้ฮิวอี้รู้สึกตัวรวมทั้งถอนตัวเองกลีบมาเป็นกลุ่มเดอะบอยดังเช่นว่าเดิม ซึ่ง สส.หญิงในฤดูกาลนี้จะเป็นการปูทางเพื่อไปเป็นบอสในฤดูกาลถัดไป

เดอะดีฟ เอเทรน เมฟ นัวร์ เหล่านี้ก็ยังมีหน้าที่ในเรื่องอยู่ แม้กระนั้นจะเป็นแถวผู้แสดงที่ได้รับผลจากความสติแตกเป็นที่รองรับอารมณ์ของโฮมแลนเดอร์ล้วนๆซึ่งช่วงท้ายพวกเราก็จะได้มองเห็นการแตกหักของกลุ่ม 7 สุดท้าย

ฤดูกาลนี้นับว่าทำมาได้ดิบได้ดีตลอดทั้งความครีเอทฉากอัปมงคลๆของซูป ฉากแอ็กชั่นที่มีมาเรื่อยตลอดทุกตอน ดราม่าผู้แสดงก็มิได้มากไม่น้อยเลยทีเดียว และก็สมเหตุผลกับเรื่อง แม้กระนั้นสิ่งที่ทำให้ฤดูกาลนี้เสียไปเป็นอย่างมากเป็นตอน 8 ตอนสุดท้ายที่ระยะหลังฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องไม่ค่อยสมเหตุผล รวมทั้งการปูมาเป็นอย่างมากใหญ่ว่าส่วนท้ายพวกเราจะได้มองเห็นศึกรุมโฮมแลนเดอร์แบบมันๆแน่ แต่ว่าเปลี่ยนเป็นไม่มี แล้วเรื่องก็บิดไปทางอื่นอีก แถมยังส่งผลให้ตัวลูกของโฮมแลนเดอร์บิดไปจากที่วางเรื่องว่าเป็นเด็กดีมาตลอด ราวกับเรื่องเพียงแค่อยากให้มีตัวละครต่ำช้าเยอะขึ้นกว่าโฮมแลนเดอร์แค่นั้น ซึ่งเป็นแถวทางที่ซ้ำแล้ว ไม่ตรงกับคอมมิคด้วย บางครั้งอาจจะดีในทางไม่เหมือนกัน แม้กระนั้นเรื่องก็จบแบบไม่น่าชอบใจนักในทุกๆเงื่อนที่ปูมาอย่างยอดเยี่ยม แต่ว่าตกม้าตายตอนสุดท้ายเกือบจะหมด

ร้านของเก่า The Antique Shop หนังสยองขวัญรวมดารานานัปการชนชาติ อันประกอบไปด้วย 4 ประเทศ ไทย, ประเทศสิงคโปร์, อินโดนีเซีย รวมทั้ง ประเทศเกาหลีใต้ ที่จับเอาการราวของไอเท็มอาถรรพณ์มาเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวเชิญชวนขนหัวลุก

“ร้านของเก่า” ประกอบไปด้วยหนังสั้นสยองขวัญปริมาณ 3 เรื่อง โดยเรื่องราวทั้งผองจะถูกร้อยเรียงผ่านการบอกกล่าวผ่านผู้แสดงอย่าง มาดาม (พิจิกา จิตตะปุตตะ) เถ้าแก่ขายสินค้าเก่าที่เก็บรวบรวมบรรดาข้าวของต่างๆที่ล้วนแต่เต็มไปด้วย “เรื่องราว” อันสุดแสนน่ากลัวรวมทั้งน่าอัศจรรย์อยู่ไม่น้อย

แอนดี้ (ยกบิง) เด็กหนุ่มนักเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ที่เดินทางมายังเมืองไทย ระหว่างที่เขาเดินเที่ยวอยู่ในเขตเมืองเก่า เขาก็ได้เจอกับร้านขายของเก่าที่นี้ ด้วยมนต์เสน่ห์บางสิ่งบางอย่างทำให้เขาพึงพอใจในข้าวของต่างๆในร้านค้าที่นี้ รวมทั้งทำให้เขาได้เริ่มฟังเรื่องราวอันแสนพิศดารจากปากของมาดาม

เรื่องราวแรกเล่าถึงวาดิ (ริโอ ดิวันโต้) ชายหนุ่มเข้มชาวอินโดนิเซียที่เดินทางจากครอบครัวถิ่นฐานบ้านช่องมันยังเมืองไทยเพื่อหารายได้ส่งคืนบ้าน ตอนแรกเขาดำเนินการเป็นพนักงานขับรถให้กับเจ้านาย แม้กระนั้นเมื่อปฏิบัติงานไปได้สักระยะเขาก็ล่วงรู้ความเป็นจริงว่านายว่าจ้างของตนเองทำธุรกิจด้านมืด เกี่ยวเนื่องกับพ่อค้าสิ่งเสพย์ติด

ภายหลังที่กริช (ภคชนก์ โม้อ่อนศรี) สมาชิกแก็งมาเฟียพบว่า “สารเสพย์ติด” ที่เขาทำข้อตกลงไว้หายไป เขาเลยจับกุมตัววาดิมาผูกไว้กับเก้าอี้กลางบ้านร้างแห่งหนึ่งเพื่อทรมาทรกรรมให้เขาบอกเรื่องจริงว่ายาบ้านั้นอยู่ตรงไหน โดยระหว่างนั้นเอง วาดิก็เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังงานบางสิ่งที่วนเวียนอยู่ในสถานที่ที่นี้ เหมือนว่าพวกเขามิได้อยู่กันโดยลำพัง

สิ่งที่น่าดึงดูดเป็นการจับข้อความสำคัญเรื่องสารเสพย์ติด การซ้อมทรมาทรกรรม เอามาเป็นเส้นเรื่องหลักของทีแรกๆ แม้ว่าจะไม่มีอะไรกลับเหนือการคาดการณ์และก็อาจพูดได้ว่าตอน “เก้าอี้มรณะ” นับว่าเป็นในระหว่างที่ชืดสนิทที่สุดในสามเรื่องเลยก็ว่าได้

สิ่งที่น่าขำขันกว่าเป็นระหว่างที่หนังจะเดินทางไปสู่เวลาที่ 2 ภายหลังที่นักแสดงแอนดี้ได้ฟังเรื่องราวแรก เขาได้กล่าวประโยคที่ว่า I never thought that Thailand had something like this. พวกเราในฐานะผู้ชมชาวไทยก็ถึงกับขำก๊ากออกมาในทันทีว่า จะเป็นได้อย่างไรในเมื่อข้อมูลต่างแดน เขาต่างก็รับทราบกันว่า “ด้านมืด” ของเมืองไทยโดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องไม่ถูกกฎหมายนั้นเป็นที่ร่ำลือกันไปทั่ว หรือบางครั้งในความหมายของผู้แสดงแอนดี้นั้น เขาบางทีก็อาจจะเป็นเก้าอี้อาถรรพณ์ที่เป็นที่อยู่ของวิญญาณก็เป็นไปได้