รีวิวหนัง สตรีหาญ ฉางเกอ : สงคราม ความรักที่ฟินและดุเดือดไปพร้อม ๆ กัน

‘สตรีหาญ ฉางเกอ’ (The Long March of Princess Changge) ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์

ดัดแปลงแก้ไขมาจากมังงะเรื่อง ‘ฉางเกอฉิง’ (Chang Ge Xing) ที่เขียนโดย Xia Da โดยจับเอาเหตุที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ตอนต้น ‘วงศ์สกุลถัง’เป็น‘เรื่องประตูเสวียนหวู่’ สถานะการณ์สำคัญคราวหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ช่วงปลายรัชสมัย ‘พระราชาธิราชถังเกาจู่’ ผู้จัดตั้งราชวงซ์ถังมาเป็นหัวเชื้อสำหรับการเล่า แล้วใส่ตัวนำที่เปรียบเทียบเช่น วีรสตรีบอบช้ำนางหนึ่งที่โดนยิงธนูแล้ว โดนยิงธนูอีก เข้าไปเป็นบุคคลสำคัญของเรื่องเป็น‘ฉางเกอ’ นางเอกของเรื่อง จนได้เจอรักกับ ‘อาซือเล่อสุ่น’ ดารานำชายของเรื่อง คนที่มีชื่อเสียงว่าเป็นอีกทั้งมิตรรวมทั้งศัตรู

ตามประวัติศาสตร์จีนเล่าไว้ว่า องค์ชายรอง ‘หลี่ซื่อหไม่น’ พร้อมกำลังทหารได้ชิงลงมือลอบปลงพระชนม์ องค์ชายรัชทายาท ‘หลี่เจี้ยนเฉิง’ และก็องค์ชายสี่ ‘หลี่เหวียนจี๋’ ที่ประตูเสวียนหวู่ซึ่งเป็นประตูทางเหนือของวังหลวงที่ฉางอัน ทำให้องค์ชายรอง หลี่ซื่อหไม่น ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทต่อจาก หลี่เหวียนจี๋ พี่ชายรวมทั้งในอีก 6 วันถัดมา จักรพรรดิ์ถังเกาจู่สละราชบัลลังก์ ทำให้องค์ชายหลี่ซื่อหไม่น ได้สืบราชบัลลังก์เป็น ‘พระราชาธิราชถังไท่ควร’ แน่ๆว่า ‘ฉางเกอ’ ไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แม้กระนั้นมีตัวตนสะดุดตาเป็นนางเอกสมองแหลมอยู่ในประเด็นนี้ เหมือนกับมีตัวตนจริงๆแบบนั้นล่ะ

รีวิวหนัง

ทำความเข้าใจสำหรับคนที่ยังไม่เคยมองซีรีส์ประเด็นนี้ หรือเพิ่งจะเคยมองซีรีส์จีนกันก่อนสักหน่อยจ้ะ กับตำแหน่งต่างๆที่กำลังจะได้พบเห็นในเรื่อง ด้วยเหตุว่าซีรีส์หัวข้อนี้จะใช้คำซึ่งเป็นตำแหน่งของเชื้อพระวงศ์ ที่บางคนบางทีอาจไม่คุ้นเคย ‘ไท่จื่อ’ คือ รัชทายาท มีอำนาจทั้งหมดทุกอย่างรองจากฮ่องเต้ ลูกสาวของไท่จื่อ จะมีตำแหน่งเป็น ‘จวิ้นจู่’ เป็นองค์หญิงหรือท่านหญิง เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 3 ส่วนบุตรหญิงของ ‘ยอด’ จะมีตำแหน่งเป็น ‘เซี่ยนจู่’ ก็คือองค์หญิงหรือท่านหญิง อย่างกับจวิ้นจู่ แต่ว่าเป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 4

ซีรีส์จับ ‘เหตุประตูเสวียนหวู่’ มาเล่าว่า ‘หลี่ฉางเกอ’ หรือ ‘หย่งหนิงจวิ้นจู่’ (ตี๋ลี่เร่อขว้าง) บุตรสาวของ ‘หลี่เจี้ยนเฉิง’ ไท่จื่อเวลานี้ รอดตายจากเงื้อมมือของ ‘หลี่ซื่อหไม่น’ หรือ ‘ฉินอ๋อง’ ผู้ซึ่งเป็นอาแท้ๆในคราวที่มีการฆ่าหมู่อีกทั้งเชื้อสาย ในชีวิตธรรมดา หลี่ฉางเกอ มักถูกใจแต่งตัวเป็นชายออกไปต่างประเทศวังเสมอๆ แล้วก็เป็นสตรีที่มีวรยุทธเด่น เฉลี่ยวฉลาดเป็นกรด ชำนาญตำราพิชัยสงคราม นางเก่งขนาดนี้มาได้ก็ด้วยการฝึกฝนอบรมสั่งสอนจาก หลี่ซื่อหไม่น คนฆ่าบิดาฆ่าแม่ของนางเองนี่แหละ ด้วยเหตุดังกล่าวความเกี่ยวเนื่องของผู้แสดงสองตัวนี้ ลึกซึ้งมากไม่น้อยเลยทีเดียวจนปัญญาเจ็บ

หลี่ฉางเกอ หนีการเข้าจับกุมหัวซุน แล้วก็พกความแค้นเอาไว้เต็มพิกัด ตั้งใจแน่แน่วว่าจะทำทุกวิธีทางเพื่อนำกำลังกลับมาฆ่า หลี่ซื่อหไม่น ให้ได้ โดยไม่รู้เรื่องเลยสักหน่อยว่าอาแท้ๆที่ตนเองรักราวกับบิดา เพราะเหตุไรจำเป็นต้องฆ่าบิดาและก็แม่ของตนเพียงแค่เพื่อจะเป็นไท่จื่อ ซึ่งประวัติศาสตร์ส่วนนี้ได้เล่าไว้ว่า หลี่ซื่อหไม่น ซึ่งเป็นฉิ๋นอ๋องตอนนั้น ไม่เข้ากันกับพี่ตนเองรวมทั้ง ฉี๋ชั้นหนึ่ง น้องชาย แต่ว่าก็หูดีรู้ข่าวสารมาว่า ไท่จื่อ รวมทั้งฉี๋อ่อง กำลังร่วมมือกันคิดแผนกำจัดตัวเอง ก็ชิงลงมือก่อนเลยจ้า หลอกสองคนนั้นไปที่ประตูเสวียนหวู่ แล้วปลิดชีพซะ เธอเอกทราบเพราะว่าไปได้ยินโดยบังเอิญผัวตนเองคิดแผนกำจัด หลี่ซื่อหไม่น นักประวัติศาสตร์ทราบ ผู้แต่งก็ทราบแต่ว่า นางเอกไม่รู้จักจ้ะ

เรื่องย่อ โลกออนร้าย The Effect

The Effect โลกออนร้าย เมื่อความสนิทระหว่าง เก่ง รุ่นพี่ที่ใครๆในมหาวิทยาลัยก็ต่างเฝ้ามอง

กับ ชิน รุ่นน้องที่แทบจะไม่มีตัวตนในรั้วมหาวิทยาลัย โดนจับตามองและก็ถูกกล่าวถึงเยอะที่สุดในโลกอินเตอร์เน็ต ความคลอนแคลนในความข้องเกี่ยวของเขาทั้งคู่ก็เลยเกิดขึ้น และก็นำมาซึ่งจุดแตกหักเมื่อใครบางคนเลือกจัดการกับปัญหาด้วยการทิ้งคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ เมื่อทุกสิ่งไม่เป็นดังหวัง พวกเขาทั้งคู่จะจัดแจงจับรอยแผลที่ตัวเองมิได้สร้างไว้เช่นไร

เรื่องราวทั้งสิ้นถูกเล่าผ่านผู้แสดงที่ชื่อว่า เคยชิน กับ พี่เก่ง และก็ ไบร์ท กับ ความปิติยินดี เคยชินเด็กผู้ชายปกติที่ไม่มีอะไรเด่น แถมยังเป็นคนไม่เก่งในประเด็นการเข้าสังคม แตกต่างจากพี่เก่งที่เป็นเสมือนชายหนุ่มในฝันของคนภายในมหาวิทยาลัย อย่างกับไบร์ทที่มักมีรอยยิ้มตกแต่งบริเวณใบหน้า ไม่เหมือนกับความปิติยินดีที่ไม่เคยมีรอยยิ้มให้ผู้ใดกันมองเห็น

รีวิวกรีนแลนด์ หนัง

ความสนิทของความแตกต่างถูกวิภาควิจารณ์ในโลกโซเชียลทำให้พี่เก่งได้รับผลพวงโดยตรงกับกิจกรรมในมหาวิทยาลัยที่ร่วมอยู่ เคยชินรู้สึกว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่เก่งจำเป็นต้องมาพบเรื่องทั้งผองเลยตีจาก ความอกน้อยใจ ความขุ่นเคือง แล้วก็การสิ้นไปทำให้พี่เก่งไร้สติลงมือฝืนใจรวมทั้งปองร้ายคุ้นชิน ความบันเทิงใจคู่หูเพียงผู้เดียวของเขารวมทั้งไบร์ทที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของความปิติยินดีก็ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน มิตรภาพที่แท้หัวใจจากเพื่อนฝูงทำให้คุ้นเคยมีลักษณะดียิ่งขึ้นเป็นลำดับ

แม้กระนั้นไม่ว่ารอยแผลทางร่างกายจะหายสนิทเพียงใด แต่ว่าหัวใจของเคยชินไม่เคยลืมเรื่องเหตุพวกนั้นก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้วันใดวันหนึ่ง ทำให้ตอนวันที่เขาจำต้องโคจรมาเจอกับพี่เก่งอีกรอบด้วยความบังเอิญ เสียงโครมท้ายที่สุดคราวนี้เป็นครั้งที่เขาได้เปิดเผยความอ่อนแอรวมทั้งได้จบความเจ็บของตนเองลง ดังพี่เก่งที่ได้จบความเจ็บกับความต่ำช้าร้ายที่ตนเองได้ก่อไว้

รีวิว The Terminal List ซีรีส์ทุนสูงของคริส แพรตต์ กับแอ็กชั่นล้างแค้นสุดโหดจากเนวีซีลตัวจริง

The Terminal List ชื่อไทย ดับมือสังหาร ซีรีส์ทูนสูงงานสร้างเกรด A ของ Amazon Prime จากนิยายชุดเล่มแรกของคนเขียน Jack Carr ที่เป็นกองทัพเรือซีลตัวจริง

แล้วก็ได้คริส แพรตต์มานำแสดง และก็เป็นโปรดิวเซอร์ ร่วมกับ Antoine Fuqua ผู้กำกับ The Equalizer พญายมไม่มีเงา หรือที่คนเรียกเล่นๆว่า มือสังหารโฮมโปร นั่นเอง โดยรับหน้าที่ทั้งยังควบคุมและก็โปรดิวเซอร์ด้วย เรื่องราวของผู้กองหน่วยซีลเจมส์ รีช ที่เสียลูกน้องหน่วยซีลของเขาไปทั้งปวงในภารกิจต่างบ้านต่างเมือง เขากลับมาตามแสวงหาข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในภารกิจนี้ โดยมีลักษณะเจ็บทางสมองทำให้เขาเริ่มแยกประเภทมิได้ว่าสิ่งที่เขามองเห็นรวมทั้งจำได้นั้นเกิดเรื่องใช่หรือไม่

รีวิว หนังแอ็คชั่น

ซีรีส์ทูนสูงของ amazon กับ คริส แพตต์ ที่ออกมาสำเร็จงานที่สุดยอดมากเรื่องหนึ่งในแนวแอ็กชั่นทริลเลอร์ โดยมีจุดแข็งก็คือความเหมือนจริงในเนื้อหาด้านทหารเกือบทุกด้าน เนื่องจากคนเขียนหัวข้อนี้เป็นเนวีซีลประสบการณ์รบในการทำศึกกว่า 20 ปีตัวจริง ร่วมกับฉากแอ็กชั่นชำระแค้นสุดชั่วร้าย เกินขีดกว่าเรื่องไหนๆกระทั่งราวกับผู้แสดงนำชายเป็นผู้ก่อเหตุร้ายแรงในคราบเปื้อนซีล ซึ่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดสเกลการไล่ล่าในเรื่องที่ใหญ่มโหฬารระดับประเทศผ่านโลก แล้วก็ยังซ่อนเร้นด้วยอารมณ์ดราม่าในเรื่องราวชนิดเดียวกันกับหนัง The Equalizer เนื่องจากว่าผู้กำกับผู้เดียวกัน ซึ่งทำให้ประเด็นนี้ออกจะครบรสมากมาย แต่ว่าจะต้องย้ำว่าเรื่องราวใน 2 ตอนต้นบางทีก็อาจจะมองงงเต็กไปกับอาการทางสมองกับโรค PTSD ของดารานำชายเยอะแยะจนกระทั่งอาจก่อให้มองงงงันๆกับแนวทางของเรื่อง แต่ว่าถ้าหากผ่านไปตอน 3 ได้แล้วนี่เป็นความสนุกสนานเริ่มจุดติดต่อเนื่องยาวๆด้วยฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นทุกตอนจนกระทั่งจบขอรับ

จุดแข็งสุดของหัวข้อนี้เป็นความสมจริงสมจังในเนื้อหาด้านการทหาร การใช้อาวุธ การวางเป้าหมายสืบสาวกับชั้นเชิงการจัดการจุดหมาย ซึ่งความเหมือนจริงนี้ก็เนื่องจากนักเขียนประเด็นนี้เป็นเนวีซีลตัวจริงเสียงจริง ประวัติความเป็นมาในเว็บไซต์ของเขาเป็นนำกลุ่มทำการพิเศษในฐานะหัวหน้าทีม ผู้บังคับบัญชาหมวด ผู้บังคับบัญชากองร้อย รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทีมเฉพาะกิจ ตลอดเวลา 20 ปี หลังจากนั้นก็แปรไปเป็นแปลงพลแม่นปืนของหน่วยซีล นำกลุ่มเล่นงานรวมทั้งลอบยิงในอิรักรวมทั้งอัฟกานิสถาน มาเป็นผู้บังคับบัญชาหมวดฝึกฝนปฏิบัติงานต้านทานการก่อความไม่สงบในประเทศฟิลิปปินส์ตอนใต้ มาเป็นผู้บังคับบัญชานปพ.ในส่วนที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศอิหร่าน ทางตอนใต้ของอิรัก ตลอดการล่มสลายของกองกำลังสหรัฐอเมริกา ณ ตอนนั้น

รีวิว Outside the Wire: หนังบู๊ที่ต้องคิดตามมากกว่าที่คิด เลยยังไม่ค่อยคลิก

Outside the Wire เรื่องย่อ: ฮาร์ป อดีตกาลทหารบังคับโดรนฆ่า ตกลงใจฝ่าฝืนคำสั่งปล่อยจรวดช่วยหน่วยรบ 38 นายที่อยู่กึ่งกลางป่าดงศัตรู

โดยการทำการเสียสละชีวิตทหาร 2 นายไปพร้อมด้วยทหารฝั่งศัตรู รวมทั้งทำให้เขาถูกสั่งย้ายไปร่วมภารกิจกับ ผู้กองลีโอ ทหารสุดแปลกที่ไม่มีผู้ใดเอา ผู้จะลากฮาร์ปไปกึ่งกลางสนามรบด้วยภารกิจชักชวนฉงน รวมทั้งการเปิดเผยตัวตนว่าเขาเองเป็นแอนดรอยด์ไม่ใช่คน ซึ่งฮาร์ปจะถูกบังคับให้เลือกทางแยกที่ทุกข์ยากตลอดการเดินทางคราวนี้

เป็นหนังเน็ตฟลิกซ์ที่ทรงมาทางแอ็กชันไซไฟคะ แม้กระนั้นความน่าดึงดูดใจอาจจะเป็นการกลับมาสวมบทบาท ซูเปอร์ฮิวแมน ของ แอนโธนี แมกคี ที่ติดตาแฟนคลับมาจากบท แซม วิลสัน หรือ ฟอลคอน จากหนังมาร์เวล งานนี้ก็เลยจำเป็นต้องมาลุ้นกันว่าถ้าหากไม่ใช่หนังเชื้อสายมาร์เวลแล้วเขาจะยังสวมบทแนวซูเปอร์ฮีโรรอดหรือเปล่า ด้วยเหตุว่ากับหน้าที่แนวไซบอร์กจากซีรีส์ Altered Carbon ซีซัน 2 ทางเน็ตฟลิกซ์ของเขา เรียกว่าล้มเหลวในด้านเสน่ห์ความน่าติดตามพอควรเลย

รีวิวหนัง pantip

ส่วนด้านคณะทำงานเบื้องหน้าเบื้องหลังงานสร้างก็ได้ผู้กำกับ มิคาเอล ฮาฟสระทม จากประเทศสวีเดนที่เคยส่งผลงานเพียงพอสร้างชื่ออย่างหนังสยองขวัญอีกทั้ง 1408 (2007) แล้วก็ The Rite (2011) โดยในแนวแอ็กชันก็ส่งผลงานที่น่าจำเป็น Escape Plan (2013) ที่ สิลเวสเตอร์ สตอลโลน ปะทะ อาร์โนลด์ ชวาร์ซเน็กเกอร์ มองจากผลงานนับว่าเชื่อมือการเล่าเรื่องได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ แม้กระนั้นจะหวังบู๊ผลาญเลยคงจะยากนิดนึง

ซึ่งก็เป็นฉะนั้น เนื่องจากเมื่อเหมาะเจาะกับการได้มือเขียนบทอย่าง ร็อบ เยสคอมบ์ ที่เคยผ่านงานประพันธ์บทให้เกมเรื่องราวน้ำดีอย่าง The Division ที่ผสมแอ็กชัน โรคระบาดกับการบ้านการเมืองได้เข้มข้นมาเขียนบทด้วยแล้ว ก็ยิ่งเกื้อหนุนกันดีในทางบทเชื้อเชิญคิดมากกว่าเชื้อเชิญลุ้นระทึกนันสต็อปแน่ๆ

จริงๆการที่ร็อบได้ประสานมือกับ โรแวน เอเธล ที่ส่งผลงานแนวแอ็กชันไซไฟเกรดบีมาร่วมเขียนบท แล้วก็พิเคราะห์จากที่ร็อบเคยเขียนบทเกมไซไฟเอามันอย่าง Crysis มาแล้ว มันก็มีทั้งยังช่องทางแบบเกรดบีเอามันไม่สนใจพล็อตเรื่องแบบเอาชีวิตรอดกล้วยๆไปเลยได้เหมือนกัน แม้กระนั้นเมื่อหนังมันออกมาทางที่ไซไฟปรัชญาที่ท้าตนเองของทั้งสองแทน พวกเราก็ยกย่องในความอาจหาญที่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน

หนังเล่าของทหารอ่อนประสบการณ์ในสนามรบจริงอย่าง ฮาร์ป (แดมสัน ไอดริส) ที่ตกลงใจฆ่าคนผ่านหน้าจอแล้วก็ปุ่มคอนโทรลในมือไม่มีความต่างจากการเล่นเกม ทำให้เขาตกลงใจสละชีวิตทหารฝั่งตนเองเพื่อผลสรุปได้อย่างไม่รู้เรื่องสึกทราบสาอะไร การโดนลงทัณฑ์ให้ไปร่วมภารกิจกับ ผู้กองลีโอ (แมกคี) ทหารสุดเก๋าก็เช่นเดียวกันกับจะให้อารมณ์หนังสไตล์คู่ซี้แจ้งชัด แต่ทว่าเมื่อ ฮาร์ปถามลีโอว่า นี่มันราวกับพวกเราเป็นคู่ขากันเลย? เขาก็โดนลีโอตวาดหงายตึงว่า ไม่ เอ็งเป็นลูกน้องฉัน เพียงแค่นั้น ทำให้ผู้ชมเริ่มจะต้องปรับพฤติกรรมนิดๆว่า นี่ไม่ใช่งานมองเพลิดเพลินๆเอามันแบบ Bad Boys แน่ๆแล้วล่ะ

ความยุ่งยากสำหรับเพื่อการดูหนังหัวข้อนี้มาจากที่ตรงนี้เอง พวกเราจำเป็นต้องจับสัญญาณระหว่างบทสำหรับพูดของ 2 คู่ขา ที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปตลอดเรื่อง โดยความเจ็บปวดขมองเป็น ผู้แสดงแอนดรอยด์อย่างผู้กองลีโอ มีความประพฤติที่เชื้อเชิญงงเต็กต่อกฎ 3 ข้อของจักรกลที่มักสำคัญในหนังแนวไซไฟหุ่นยนต์ทุกเรื่อง ซึ่งพวกเราไม่เคยรู้ได้เลยว่า ฮาร์ป หรือผู้แทนผู้ชม ควรจะตอบรับกับการสอนหรือการลวงใช้ของ ลีโอยังไง

ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ทางด้านการเมืองแถบบอลข่านที่เป็นฉากหลักของเรื่อง ความไม่ลงรอยกันระหว่างกรุ๊ปเผด็จการทหาร กรุ๊ปกบฏ ราษฎรยูเครน รัฐบาลรัสเซีย แล้วก็รัฐบาลสหรัฐ ที่ฟุ้งอยู่เป็นเบื้องหลังอีกทั้งประเด็นนั้น ก็แอบจำต้องคิดตามอยู่ไม่น้อยพอแล้ว

เมื่อทุกส่วนประกอบทั้งยังการบ้านการเมืองหลายพวก ปรัชญาเรื่องการรบ ความเป็นคนที่ถกเถียงกับหน้าที่ทหาร ปรัชญาไซไฟเกี่ยวกับกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ อารมณ์ที่ไม่ตรงกันกับเหตุผล ถูกเอามาเสนอผสมกันมันก็เลยกลายเป็น โกโก้ครันช์ รสรวมๆที่ถ้าเกิดไม่ถูกปาก ก็เทจานชามคว่ำทิ้งถังได้เลย

รีวิว Bastard!! การปลุกชีพมังงะแนวฮาเร็มแฟนตาซีของ Netflix ที่ดูตกยุคไปหน่อย

Bastard!! อสุรีร้ายจอมกษัตริย์ อนิเมะแนวแอ็กชั่นแฟนตาซีสายฮาเร็มจากสมัย 90 ที่เอามาผลิตใหม่โดย Netflix

เรื่องราวของกองกองทัพที่ทารุณโหดร้ายมานะจะช่วยชีวิตเทวดาหายนะมาทำลายโลกเพื่อดูแลวันหลัง แต่ว่าก็จะต้องพบมนุษย์ปลุกชีพจอมเวทที่ร้ายกาจมากกว่ามาต้าน (พร้อมทั้งความหื่นเต็มพิกัด) ถือได้ว่าเป็นการปลุกชีพอีกหัวข้อที่ Netflix ทำเป็นดี ตัวเรื่องมีความหื่นราคะขายฮาเร็มกันสุดๆโดยไม่มีการเซ็นเซอร์ (เรต 18+) ลายเส้นและก็ความลื่นไถลไหลอนิเมะงาม นักแสดงเลียนแบบจากมังงะไม่มีผิดเพี้ยน แต่ว่าคนไหนกันที่คาดหวังฉากแอ็กชั่นต่อสู้สนุกๆก็จะต้องกล่าวว่าเรื่องมิได้ย้ำนั่น มีเพียงแค่ความเลือดสาดที่มอบให้กับชวนขันนิดๆจากความโวหลงตัวเองของผู้แสดงนำ เรื่องราวก็มิได้ย้ำสมเหตุผลอะไรเลยนิดหน่อย เนื่องจากตัวเรื่องแน่ชัดว่าจะขายความหื่นกามาของผู้แสดงนำ ดาร์ก ชไนเดอร์ กับผู้หญิงเป็นหลักแค่นั้นนะครับ

รีวิวหนังภาพหวาด

เรื่องย่อ สี่ร้อยปีภายหลังที่อารยธรรมยุคสมัยใหม่ล่มสลาย โลกเจอแต่ว่าความอลหม่านท่ามกลางเพลงกระบี่และก็คาถา กองกำลังกบฏข้างมืดซึ่งคิดแผนฟื้นทวยเทพที่การล้มล้างที่ชื่อว่าแอนทราแซ็กซ์ ยังคงแผ่กระจายอำนาจเพื่อครอบครองโลก โดยมีเทวราชาอีกทั้งสี่ผู้มีพลังเก่งเป็นหัวหน้า อาณาจักรเมทัลลิกานาในทวีปเมทัลเลียนกึ่งกลางถูกจู่โจมจากกองกำลังกบฏข้างมืดที่คุมกองทัพโดยจอมเวท เพื่อจะคุ้มครองอาณาจักรเอาไว้ เทีย โนโตะ โยโกะ บุตรสาวของมหาปุโรหิตก็เลยจำเป็นต้องกระทำตกลงใจ คุณควรต้องปลุกชีพบิดามดผู้มีอิทธิพลในสมัยโบราณซึ่งเคยคิดแผนที่จะครอบครองโลก แล้วก็ถูกสะกดเอาไว้ภายในร่างของเพื่อนฝูงยุคเด็กของคุณที่ชื่อลูเชียน เรนเรน อย่างเดียวที่จะคลายมนตร์สะกดนั้นได้ก็คือจูบแรกของสาวพรหมจรรย์ เมื่อจำเป็นต้องพบเจอกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามา เทียก็เลยตามติดริมฝีปากกับลูเชียน และก็ขณะเดียวกันนั้นเอง พลังงานมืดอันแรงกล้าก็แผ่ปกคลุมไปทั่ว และก็แล้วตัวเอกสุดแข็ง สุดร้ายกาจรวมทั้งสุดหล่ออย่างดาร์ก ชไนเดอร์ บิดามดในตำนานก็ฟื้นขึ้นท้ายที่สุด

รีวิว Stranger Things 4 การกลับมาจุดเริ่มเฉลยเรื่องราวแบบอลังการงานสร้างมาก

Stranger Things 4 ฤดูกาลก่อนสิ้นเรื่องราวในฤดูกาล 5 เป็นภาคที่กลับมายังจุดเริ่มของเรื่องราวทั้งสิ้น ซึ่งทาง Netflix ทุ่มทุนสร้าง 270 ล้านเหรียญมากมายสุดเท่าที่เคยมีมาอย่างยิ่งจริงๆ

และสนองตอบแฟนคลับได้อย่างเต็มที่จุใจมากมาย แม้ว่าจะถูกแบ่งเป็น 2 พาร์ท โดยฤดูกาลนี้มีทั้งหมดทั้งปวง 9 ตอนแบ่งเป็น 2 พาร์ท 7 ช่วงแรกกับ 2 ตอนสุดท้ายที่จะฉายตามมาในวันที่ 1 มือกกฎาคม ซึ่งก็เป็นแนวทางตลาดขยายเวลาให้ผู้ชมติดตามมองกัน แล้วหลังจากนั้นก็กันผู้ชมสมัครมาเพื่อมองเพียงแค่ประเด็นนี้แล้วไม่ยืดอายุ ซึ่งจริงๆพอสมควรจบแล้วมีความรู้สึกว่าเป็นแผนที่ไม่เวิร์คเลยสำหรับผู้ชมที่เป็นพวกประจำอยู่แล้ว จากที่จำต้องจบสะสางอะไรให้พอดีแปลงเป็นจำเป็นต้องมารอติ่ง 2 ตอนสุดท้ายอีกเดือนกว่า เพราะว่ากลยุทธ์ตลาดล้วนๆไม่ใช่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการแบ่งพาร์ทงานสร้างของความจริงๆ

Summary นับว่าเป็นภาคที่ทำออกมาไม่ผิดหวังเลย และดูดีตระการตางานสร้างมากมาย ถึงตอนแรกๆบางทีก็อาจจะรู้สึกต่ออารมณ์จากภาคเก่าไม่ติดบ้างเพราะว่าความที่ฉายห่างกันเกือบจะ 3 ปี มีการปูความเกี่ยวข้องใหม่ๆกับการเจริญเติบโตของผู้แสดงเด็กที่ไม่ถูกลุคจากในความจำ แต่ว่าพอเพียงเรื่องเริ่มเข้าที่เข้าทางครู่หนึ่งข้างหลังผ่านทีแรกๆไป นี่เป็นความเบิกบานใจสยองขวัญด้วยอารมณ์ย้อนยุคโอลด์สคูลอันเป็นเสน่ห์ของ Stranger Things เรื่องเดียวจริงๆที่ทำออกมาในช่วงเวลานี้ได้อย่างน่าประทับใจมากมาย

รีวิวหนังผี netflix

อัพเดทพาร์ท 2 เรื่องราวยังยอดเยี่ยมอยู่ มีความวิจิตรตระการตางานสร้างจัดเต็มตลอดความยาวของพาร์ทที่เหลือ แม้กระนั้นเส้นเรื่องรัสเซียเปลี่ยนเป็นมองฝ่าฝืนยัดมาให้มีบทบู๊มากมายสุด แม้กระนั้นก็มีความไม่สมเหตุผลหลายชนิดตามมาด้วยเหมือนกัน โดยรวมยังจบได้ดีเยี่ยม พร้อมอารมณ์ระทดหมดกำลังใจเพื่อไปต่อยังฤดูกาลหน้าภาคจบที่เรื่องราวจะใหญ่มหึมากว่านี้อีกหลากหลายเท่า

รีวิว Stranger Things 4 (ไม่มีสปอยล์รายละเอียดสำคัญ) ช่วงในเรื่องต่อเนื่องกันเป็นปีถัดมาจากภาคที่แล้ว เกิดเรื่องราวปีต่อปี แต่ว่าการถ่ายทำใช้เวลาไปแทบ 3 ปี (ฤดูกาลสามฉาย 4 ก.ค. 2019) ทำให้ดาราหนังที่รับบทบาทโตขึ้นกว่าเดิมมากมาย จนกระทั่งเริ่มรู้สึกช่วงอายุขัดกับบทกับเวลาในเรื่องที่วางไว้เอาไว้พอควร อย่างไมค์ วิล ลูคัส จะมองเห็นการเจริญเติบโตได้ชัด แม้กระนั้นหัวข้อนี้แฟนคลับซีรีส์ประเด็นนี้ก็อาจละเลยได้ง่ายๆ เพราะว่ามันคือปัญหาสำคัญของซีรีส์เด็กที่รู้กันมาตั้งแต่ต้นแล้ว โน่นทำให้หัวข้อนี้ก็จะต้องรีบจบ ซึ่งทางเน็ตฟลิกซ์กับผู้ผลิตก็รับรองแจ่มแจ้งแล้วว่าจบที่ฤดูกาล 5 โดยถ่ายสม่ำเสมอจากฤดูกาล 4 ที่ฉายในขณะนี้เลย (แม้กระนั้นก็ประกาศแล้วว่ามีสปินออฟข้างหลังจบ SS5 แบบ Money Heist อีก)

รีวิวหนัง Mothering Sunday อุบัติรักวันแม่ ภาษารักงดงาม กับเสน่หาพาเจ็บและบาดลึก

เป็นหนังโรแมนติกดราม่าจากอังกฤษที่ชื่อว่า “Mothering Sunday” บางทีอาจจะเป็นหนังที่อยู่นอกสายตาของผู้ชมไปสักนิด

เพราะว่าตัวหนังก็มิได้มีกระแสดังแล้วก็ดาราที่เรียกผู้ชม แม้กระนั้นปรากฏว่าความอ่อนโยนแล้วก็ความงามของหนังหัวข้อนี้ เปลี่ยนเป็นเสน่ห์อันเชิญชวนคลั่งไคล้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่มากับการแสดงที่น้อยแต่ว่ามากมายของทั้งทีมแคสติ้งหัวข้อนี้

Mothering Sunday ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากนิยายโรแมนซ์ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าของ “เกรหมูแฮม สวิฟต์” ที่มีชื่อเดียวกัน เล่าราวของแม่บ้านประจำเครือญาติของบ้านนีเวน อย่าง เจน แฟร์ไชล์ด ที่มีชีวิตแสนเป็นระเบียบในฐานะผู้รับจ้างในบ้านของนายท่านกับนายหญิง ในระยะหลังสงครามโลกครั้ง 1 แม้กระนั้นปรากฏว่าเบื้องหน้าเบื้อหลังเบื้องหน้าเบื้องหลังในวันหยุดงานที่แสนปกตินั้น คุณซ่อนความลับในความเชื่อมโยงระหว่างชายคนหนึ่ง ที่มีฐานะที่สูงอำนาจกว่า ซึ่งก็คือ พอล เชอร์ริ่งแฮม อีกทั้งแอบนัดหมายกันไปมีชมรมลึกซึ้งสุดสวาท ในวันก่อนที่เขาจำเป็นต้องล่ำลาจากไป เพื่อเข้าพิธีสมรสกับคู่หมายที่เป็นหญิงอีกคน

รีวิวหนัง

หนังหัวข้อนี้ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงามอย่างกับบทกลอน การเล่าเรื่องที่เบาๆไล่ลำดับความสำคัญพอกพูนเพิ่มขึ้น ผ่านความนึกคิดของละครต่างๆของเรื่องทำออกมาได้อย่างน่ากล่าวชม จำเป็นต้องขอบพระคุณวิสัยทัศน์พลังหญิงของผู้กำกับชาวประเทศฝรั่งเศส “เอวา ฮัซซัน” กับการปรับเปลี่ยนบทของ “อลิซ เบิร์ซ” ที่เปลี่ยนเป็นการพอดีของสมการปัญหาของหนังหัวข้อนี้ที่ออกมาอย่างแยบยลและก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่บาดซึมลึกเข้าไปเรื่อย

เสน่ห์ในหนัง Mothering Sunday ก็คือการเล่าเรื่อง ที่ยัดเยียดข้อหาสลับซับซ้อนเข้าไปแม้กระนั้นไม่ทำให้ชุลมุน กับการเล่าเรื่องในมุมมองของนักแสดงหลักที่เบาๆแทรกสอดในตอนแต่ว่าช่วงเอามาประกอบร่างกันได้อย่างพอดี ทั้งยังยังได้ไดอะล็อกแล้วก็บทหนังคำกล่าวต่างๆที่ร้อยเรียงออกมาอย่างดีเยี่ยม ดังบทประพันธ์จากที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น ทำให้ภาษารักของหนังประเด็นนี้เป็นสิ่งที่สวยสดงดงามไปตลอดทั้งเรื่อง หากว่ามันจะถูกแทรกด้วยความเจ็บตลอดทางก็ตาม

แน่ๆว่าไฮไลต์ดีเยี่ยมที่สุดของหนังเรื่องก็คือกลุ่มดาราแบบชูแอบแฝง พูดได้ว่าทุกนักแสดงแล้วก็ดาราหนังถ่ายทอดออกมาเจริญหมด “โอเดสซา ยัง” อนุภาพและก็เสน่ห์ของคุณในหนังหัวข้อนี้ร้ายแรงมากมาย เป็นหนังที่เสมือนจะมิได้ออกแรงมากมาย แม้กระนั้นคุณสามารถประคองหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้อยู่มือและก็ทำเป็นอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยท่างท่าการแสดงที่ให้มาเพียงแค่น้อยแม้กระนั้นทรงอำนาจอย่างมาก เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตากระบวนการแสดงพอได้

ระหว่างที่ “หน้าจอช โอคอนเนอร์” ก็สิ่งเดียวกัน ที่มอบการแสดงแบบน้อยแต่ว่ามากมาย แสดงออกอินเนอร์ต่างๆออกมาจากท่าทางมากยิ่งกว่าคำกล่าว และก็เขาก็ทำเป็นดี หนังยังมี 2 ตัวเป้ง “คอลิน เฟิร์ธ” กับ “โอลิเวีย วัวลแมน” ร่วมสมทบด้วย รวมทั้งการแสดงของผู้แสดงระดับตำนานทั้งยัง 2 คนนี้ก็ไม่ต้องกล่าวอะไรมากมาย เพียงแค่ยืนนิ่งส่งอารมณ์ก็บาดใจผู้ชมไปถึงส่วนลึกไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว พวกเขาเป็นส่วนประกอบสมทบที่ช่วยเติมเต็มความเฉียบคมให้กับหนังประเด็นนี้โดยแท้จริง