เดือน: กันยายน 2022

หลอนที่สุด “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” (The Shutter) หนังเขย่าขวัญขึ้นหิ้งจากค่ายจีทีเอช

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงได้เริ่มขึ้นเมื่อ ธรรม์ คนถ่ายรูปชายหนุ่มไปร่วมงานสมรสของ ต้น เพื่อนเกลอยุคเรียนของเขา ธรรม์กินเหล้าจนกระทั่งเมา เที่ยวกลับ เจน แฟนสาวของเขาก็เลยสมัครใจขับให้ กลางทางเกิดเหตุราวนึกไม่ถึงเมื่อเจนขับชนร่างของหญิงสาวคนหนึ่งสุดแรงเกิด ร่างนั้นกระเด็นผ่านรถยนต์ไปนอนนิ่งอยู่ที่ข้างหลัง รถยนต์เสียหลักพุ่งชนป้ายที่ใช้โฆษณาริมถนนในทันที เมื่อมีสติได้ ธรรม์ตกลงใจบอกให้เจนขับหนีจากจุดเกิดเหตุ เจนลังเลด้วยความหวาดกลัวแต่ว่าท้ายที่สุดก็ตกลงใจเหยียบคันเร่ง ขับหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุอย่างเร็ว

 

ภายหลังจากวันนั้นเรื่องราวพิศดารก็เริ่มขึ้นเมื่อธรรม์พบว่ารูปรับปริญญาที่เขาไปรับถ่ายให้รุ่นน้องคนหนึ่ง กำเนิดแสงสว่างเงาแปลกมากยิ่งขึ้นมาย แสงสว่างพวกนั้นปรากฏในหลายลักษณะ บางรูปดูราวกับว่ามีคนใดกันมาบังหน้ากล้องถ่ายรูป ในขณะที่ตอนถ่ายก็ไม่มีผู้ใด รวมทั้งเมื่อนำฟิล์มถ่ายรูปมาดูก็พบว่ามีแสงสว่างเงาด้วยเหมือนกัน ธรรม์ประหลาดใจมากมายว่าเพราะอะไรถึงมีรูปเสียมากมายขนาดนี้ เมื่อเจนได้มองเห็นรูปพวกนั้น คุณพบว่ารูปหนึ่งในปริมาณนั้นมองเห็นเงาในรูปภาพปรากฏเหมือนบริเวณใบหน้าของหญิงแจ้งชัดมากมาย คุณเริ่มกลัวและก็เริ่มบอกให้ธรรม์กลับไปสืบมองเรื่องหญิงสาวที่ถูกรถชน

ธรรม์ไม่เชื่อเจน มีความรู้สึกว่าเป็นเพียงแค่รูปเสียปกติ แต่ว่าเมื่อเขาขยายภาพมองก็พบว่าเงานั้นเหมือนบริเวณใบหน้าของหญิงสาวจนถึงน่าสยอง ทั้งสองก็ไปทำบุญทำกุศลบริจาคหีบศพที่มูลนิธิร่วมรู้บุญคุณ เจนมองเห็นว่าที่กระดานรูปอุบัติเหตุนั้นมีรูปหนึ่งที่ปรากฏเงาคล้ายกับที่มีในรูปธรรม์ เป็นแสงสว่างเงาออกมาจากร่างของผู้ตาย เจนยิ่งมั่นใจว่าเงาที่ปรากฏในรูปภาพต่างๆเป็นวิญญาณจริงๆคุณตกลงใจขับขี่รถไปดูจุดเกิดเหตุโดยทันที

มั่นใจว่าคนไม่ใช่น้อยคงจะยังซึบซัมการบรรลุผลรวมทั้งความหลอนของภาพยนตร์ไทยหัวข้อนี้อยู่ เหมือนว่าพึ่งจะออกฉายไปได้เมื่อไม่กี่ปีนี้ เพราะเหตุว่าทุกฉากทุกมุมของหนังประเด็นนี้แปลงเป็นเนื้อหาที่ผู้คนเอามากล่าวถึงสม่ำเสมอถึงเดี๋ยวนี้ แม้กระนั้นความจริงหนังประเด็นนี้เข้าฉายหนแรก ตอนวันที่ 9 ก.ย. 2547 หรือ 17 ปีที่ผ่านมา เป็นหนังที่สร้างการเกิดหนังร้อยล้านบาทที่ปังที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างยิ่งจริงๆ

“อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” โคจรมาตามติดคู่กับ “คะ-ณัฐฐาวีรนุช ทองคำมี” ร่วมด้วย “เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงหรูหรา” ที่ในขณะนั้นทุกคนยังเป็นผู้แสดงเพิ่งจะมีประสบการณ์ในแวดวงไม่มากเท่าไรนัก แต่ว่าก็สามารถประคับประคองหนังหัวข้อนี้ให้เปลี่ยนเป็นหนังระดับมาสเตอร์พีชของไทยได้ แล้วก็จะต้องชูความดีความชอบให้กับ 2 ผู้กำกับ “โต้ง–บรรจง ปิสัญธนะเราล” รวมทั้ง “โอ๋–สง่า สกุลภูเขาไม่” ที่เดี๋ยวนี้พวกเขาทั้งคู่ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับแถวหน้าของแวดวงภาพยนตร์ไทยไปเป็นระเบียบ

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ มิได้เพียงแค่สร้างการปรากฏแค่เพียงในประเทศไทย เพราะเหตุว่าขณะนั้นยังขายลิขสิทธิ์ฉายหนังไปได้มากกว่า 30 ประเทศทั้งโลก เปลี่ยนเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินเจริญเกินจริงในหลายๆชาติ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศสิงคโปร์, ประเทศเกาหลีใต้ หรือ บราซิล รวมทั้งถูกนำไปรีเมคสร้างใหม่เป็นเวอร์ชั่นฮอลลิวูดและก็บอลลิวูด ที่ออกฉายไล่เลี่ยกันในปี 2008 แต่ว่าก็ไม่ประสบผลสำเร็จได้เสมอกันกับต้นฉบับของไทย

หนังผีขึ้นชื่อลือชาของประเทศเกาหลีใต้ Gonjiam : Haunted Asylum ได้รับแรงดลใจจากข้อเท็จจริงที่เกิดสังกัดโรงหมอจิตเวชศาสตร์ร้างที่มีชื่อว่า กนจีอัม สถานที่สุดหลอน

ที่ถูกจัดลำดับจากเว็บข่าวสารโด่งดัง CNN ให้ยอดเยี่ยมใน 7 สถานที่สุดสยองขวัญที่สุดของโลก ตำนานของสถานที่ที่นี้ถูกกล่าวขวัญต่อกันมาว่ามันถูกผลิตขึ้นบนพื้นที่ที่ทหารประเทศญี่ปุ่นฆ่าไร้มนุษยธรรมชาวประเทศเกาหลีอย่างใจร้ายและก็นำศพมาฝังทิ้งเอาไว้ เนื่องจากว่ากลัวว่าเรื่องจะแดงขึ้นมา ก็เลยได้สร้างอาคารโรงหมอจิตเวชศาสตร์ขึ้นมานอนทับที่เพื่อปิดบังคดี เมื่อดำเนินกิจการไปได้ครู่หนึ่งก็เกิดเหตุราวแปลกขึ้น คนเจ็บราว 42 คนทยอยฆ่าตัวตายอย่างไม่รู้จักต้นสายปลายเหตุ วันหลังผู้อำนวยการโรงหมอที่เป็นหญิงก็ล่องหนไปอย่างปัญหา ว่ากันว่าคุณฆ่าคนป่วยรวมทั้งผู้คอฆ่าตัวตายตาม ไม่นานโรงหมอจิตเวชศาสตร์กนจีอัมก็ปิดตัวลง เหลือไว้แค่เพียงตำนานสยองขวัญที่ชาวประเทศเกาหลีเล่าต่อกันรุ่นสู่รุ่น….

จะกำเนิดอะไรขึ้นเมื่อตำนานหลอนนี้ได้ถูกปลุกขึ้นมาอีกรอบด้วยการการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาในแบบภาพยนตร์ ซึ่งกล่าวถึงเรื่องราวของ เด็กมัธยม 2 ผู้ที่อัดคลิปล่าท้าทายผี โดยทั้งคู่ได้มุ่งหน้าไปยังห้อง 402 ของโรงหมอจิตเวชศาสตร์ร้างที่นี้ซึ่งไม่เคยมีผู้ใดกันย่างกรายเข้าไปมาก่อน ซึ่งเกิดเหตุไม่คิดขึ้นเมื่อเด็กทั้งคู่คนนี้ล่องหนไปอย่างลึกลับ เมื่อข่าวสารการล่องหนไปของเด็กทั้งคู่คนเลื่องลือไปทั่วทำให้ Horror Time รายการล่าท้าทายผีโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้ที่กระจายเสียงสดบนสังคมออนไลน์ กำเนิดพึงพอใจรวมทั้งต้องการที่จะหาคำตอบกับสิ่งลึกลับหัวข้อนี้ รวมถึงสงสัยว่าด้านในห้องดังกล่าวข้างต้นที่เด็กมัธยมสองคนบากบั่นเปิดแต่ว่าในที่สุดแล้วหลังจากนั้นก็ล่องหนไปอย่างไร้ร่องรอยนั้นมันมีอะไรแอบซ่อนอยู่กันแน่ ฮาจุน (สวมบทบาทโดย วีฮาจุน) กัปตันของรายการก็เลยเปิดรับสมัครนักล่าผีจากทางบ้านมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเปิดประตูห้อง 402 แบบใหม่ๆเป็นครั้งแรกของประเทศเกาหลีใต้

วันลงพื้นแท้จริงใกล้เข้ามาทุกครั้ง สมาชิกกลุ่มล่าท้าทายผีอันประกอบไปด้วย จีฮยอน (รับบทบาทโดย พัคจีฮยอน) , อายอน (สวมบทโดย โออายอน) , ชาร์ล็อต (รับบทบาทโดย มุนเยวอน) , ซองฮุน (เล่นบทโดย พัคซองฮุน) , ซึงอุค (รับบทบาทโดย อีซึงอุค) และก็ แจยุยงน (รับบทบาทโดย ยูแจยุยงน) ก็พร้อมที่ออกตามหาเรื่องจริงเกี่ยวกับเรื่องราวลี้ลับทั้งสิ้นที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาวางเป้าผู้ชมการออกอาอากาศสดครั้งประวัติศาสตร์นี้ไว้ถึง 1 ล้านคน แล้วก็โน่นจะก่อให้ Horror Time ได้รับค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณาสูงขึ้นยิ่งกว่า 100 ล้านวอน แน่ๆว่าพวกเขาไม่สนใจอันตรายหรืออาถรรพณ์ใดๆก็ตามเลยทั้งนั้น ตอนที่พวกเขาก้าวเข้าไปในกนจีอัมพวกเขาไม่เคยรู้ด้วยว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นอยู่กับชีวิตของตนนับถัดจากนี้…

Gonjiam : Haunted Asylum เล่าอย่างง่ายๆการพูดคุยกันของผู้แสดงเป็นบทสนทนาจริงในชีวิตประจำวันที่ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ ผู้กำกับ ‘จองบอมชิก’ ใช้ 20 นาทีแรกของหนังไปกับการเล่าเรื่องตั้งแต่คลิปของเด็กมัธยมสองคนถูกเจอ ตำนานของโรงหมอกนจีอัมแบบโดยประมาณการหาสมาชิกล่าท้าทายผี จนกระทั่งการละลายความประพฤติปฏิบัติของกลุ่ม และก็จบท้ายด้วยการที่ดาราหนังเข้าไปเยี่ยมโรงหมอดังกล่าวมาแล้วข้างต้นในช่วงเวลาค่ำ ซึ่งก็ค่อนข้างจะง่วงนอนพอควร แม้กระนั้นรู้เรื่องได้ว่าเป็นการปูเรื่องให้รู้เรื่องติดอยู่แรกเตอร์ของผู้แสดงรวมถึงตัวสถานที่ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง

The Divine Fury เป็นภาพยนตร์แนว Action / Horror ที่เป็นสยองขวัญเนื่องจากว่าเนื้อเรื่องอยู่บนการปราบผี ลัทธิบูชาภูติผีปีศาจ

รวมทั้งที่เป็น Action ก็เนื่องจากผู้แสดงนำชายมีอาชีพเป็นนักกีฬา MMA (Mix Martial Art หรือ ศิลป์การต่อสู้แบบผสม คือ ศาสตร์การเตะต่อยทุกกิ่งก้านสาขาทุกชาติ) การจัดการผีหรือซาตานภูติผีก็เลยเป็นการผนึกพลังของศาสตร์ที่คุณไสยแล้วก็ศาสตร์ที่พลัง เพิ่มดีกรีความมันส์มากยิ่งกว่าหนังปราบผีทั่วๆไป สมกับชื่อ The Divine Fury ก็เป็นแถวที่แปลกใหม่ดีแบบเดียวกัน ประดิษฐ์ผลงานโดยผู้กำกับ คิมจูฮวาน (หรือ เจสัน คิม) ที่เคยประสบผลสำเร็จดีมาจาก Midnight Runners (2017) แล้วก็ประเด็นนี้เขาก็ได้คว้าตัว พัคซอจุน มารับบทนำให้อีกที หนังเปิดตัวฉายที่ประเทศเกาหลีได้ฮือฮาพอสมควร แต่ว่าอาทิตย์ต่อๆมายอดขายตั๋วบางทีอาจน้อยลงเร็วไปหน่อย คงจะเนื่องจากว่าขาดกระแสปากต่อปาก หรือบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ genre ที่เป็นเทรนด์นิยมของคนประเทศเกาหลีระยะนี้เท่าแนว Comedy มั้ง

เขาเป็นคนไม่มีเลื่อมใสในพระผู้เป็นเจ้า ถึงแม้ว่าอันที่จริงแล้วเขาเกิดขึ้นมาในครอบครัวคริสเตียน แล้วก็เด็กน้อยยงองค์การอนามัยโลกในวัย 7-8 ขวบก็เต็มไปด้วยพลังเลื่อมใส ขะมักเขม้นต้องการไปโบสถ์มากมาย เคยมีความไม่วางใจในพระผู้เป็นเจ้ากาลครั้งหนึ่งในเรื่องที่ไม่คุ้มครองปกป้องชีวิตแม่ยุคที่เขากำเนิด ซึ่งผู้เป็นบิดา (รับบทบาทโดย อีซึงจุน) ได้ชี้แจงไว้ว่า ถึงแม้บิดาจะสวดมนตร์ภาวนามากให้แม่รอด แม้กระนั้นแม่สิสวดมนตร์ภาวนาแรงกล้ากว่ามากมาย เพื่อยงองค์การอนามัยโลกทารกในครรภ์คลอดมาได้ไม่มีอันตราย (ซึ้งมากมายเลย)

ถัดมาเขาก็เลยเพียรพยายามจะสวดมนตร์วิงวอนแรงกล้ากับพระผู้เป็นเจ้าเพื่อขอให้รักษาชีวิตบิดาของเขา ซึ่งเจ็บรุนแรงจากการกระทำหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการจราจร (ที่พบเจอกับเรื่องร้ายเกินคาดโดยไม่มีผู้ใดทราบ) แม้กระนั้นเมื่อบิดาหนีไม่พ้นชะตาความตาย เขาก็เลยไม่เชื่อถือมานับแล้ว แถมยังโกรธเคืองนักบวชที่โบสถ์ซึ่งไม่อาจจะสวดมนตร์ขอความช่วยเหลือได้สำเร็จผล

วันหนึ่งในช่วงเวลาที่แชมเปียนยงฮูกำลังเดินทางกลับมาประเทศเกาหลี แม้กระนั้นตื่นมาเจอรอยแผลแหลมลึกเกิดขึ้นที่ฝ่ามือข้างหนึ่ง แล้วก็มักมีเลือดไหลช่วงดึกเมื่อฝันว่าถูกรุกรามจากสิ่งเลวร้ายอะไรบางอย่าง หมอก็หาบทสรุปของโรคให้มิได้ แม้กระนั้นผู้จัดการส่วนตัวได้ชี้แนะให้ทดลองไปพบหลานสาวของเขา ซึ่งคุณเคยเจอเหตุแปลกลักษณะเดียวกัน จนกระทั่งจบลงด้วยการตาบอดแต่ว่าสามารถแลเห็นวิญญาณได้ ก็เลยมายึดอาชีพแม่แพทย์ คุณได้ชี้นำให้ยงองค์การอนามัยโลกไปพบนักบวชอัน (เล่นบทโดย อันซองกี) ที่โบสถ์

นักบวชอัน เป็นนักบวชปราบผีสไตล์คาทอลิค ขึ้นตรงต่อหน่วยงานลับกรุ๊ปนักปราบผีภูติผีมือโปรที่ชื่อว่า Arma Lucis (แสดงว่า อาวุธที่แสงสว่าง) เดินทางมาจากวาว่ากล่าวกันพร้อมกระเป๋าเครื่องไม้เครื่องมือปราบผีปีศาจร้ายครบถ้วนบริบูรณ์ (ผู้กำกับละเอียดลออกับการออกแบบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆแล้วก็ฟังก์ชันการใช้แรงงานมากมาย) เพื่อภารกิจหลักเป็นตามหาดาร์กบิชอป บรรพชิตผู้มีจิตใฝ่ใจพลังมืด แต่ว่าระหว่างนั้นนักบวชก็ช่วยปราบผีให้ผู้ตกระกำลำบากที่อ้อนวอนมาเสมอ คงจะหวังว่าบางทีอาจจะเป็นวิถีทางให้สาวไปพบดาร์กบิชอปพบก็ได้ แต่งานปราบผีปีศาจร้ายมันช่างมากมายรวมทั้งเหนื่อยเหน็ด จำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยที่ดี

ภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งราวที่ได้ได้โอกาสฉายในเทศกาขรมรวมทั้งช้านานถึง 8 นาทีอย่างยิ่งจริงๆลภาพยนตร์เวนิสอย่างเรื่อง Bones And All 

Bones And All นี้ได้ผู้แสดงนำฝ่ายมากมายความสามารถอย่าง ทิโมธี ชาลาเมต์ และก็ เทย์เลอร์ รัสเซลล์ ที่มารับบทบาทในคราวนี้โดยเกิดเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นกินเนื้อคน สำหรับ ทิโมธี ชาลาเมต์ ที่จะมารับบทเป็น Lee วัยรุ่นกินมนุษย์นั้น เขาเคยผ่านผลงานอันสะดุดตามาแล้วอย่างเรื่อง Dune (2021) และก็เมื่อได้เรื่องสมทบด้วยกันกับ เทย์เลอร์ รัสเซลล์ จากเรื่อง Escape Room (2017) บอกได้คำเดียวว่านี่เป็นการเจอกันที่ชะตาชีวิตจริงๆ

ทั้งภาพยนตร์ Bones And All ยังได้รับการควบคุมโดย ลูกา กวาดาญีโน ซึ่งผลงานที่เขาเคยประดิษฐ์กระทั่งเผชิญเสร็จมาแล้วนั้นไม่กล่าวถึงคงจะมิได้มันก็คือ Call Me By Your Name (2017)

Bones And All นั้นได้รับการดัดแปลงแก้ไขจากนิยายเกี่ยวกับวัยรุ่นที่เป็นมนุษย์กินมนุษย์ในชื่อนิยายเดียวกันว่า Bones And All จากผู้ประพันธ์ ค้างไม่ล ดิแองเจลิส ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของ Lee (รับบทบาทโดย ทิโมธี ชาลาเมต์) รวมทั้ง Maren (สวมบทโดย เทย์เลอร์ รัสเซลล์) แฟนวัยรุ่นกินมนุษย์ที่จำต้องศึกษาการใช้ชีวิตด้วยตัวเองในช่วงเวลาที่พวกเขาถูกไล่ส่งออกมาจากสังคม

Bones And All นั้นเป็นนิยายที่ได้รับรางวัล Alex Awards ในปี 2016 ซึ่งแทรกสอดด้วยข้อความสำคัญทางด้านสังคมเกี่ยวกับวัยรุ่นเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น สิทธิสตรี, ความอ้างว้าง, ความรังเกียจตัวเอง, รวมทั้ง ปัญหาเกี่ยวกับทางคุณธรรมของการกินเนื้อมนุษย์ และก็ปัจจุบันนี้ภายใต้การนำของ ลูกา กวาดาญีโน เขาได้ประดิษฐ์ผลงานชิ้นนี้จากนิยายมาสู่ภาพยนตร์รวมทั้งนำไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ความซาบซึ้งในเหล่าผู้ชมนั้นมีมากมายล้นกระทั่งจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนตบมือให้กับ Bones And All นานถึง 8 นาทีอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับเมืองไทยนั้น สามารถติดตามรับดูภาพยนตร์ที่น่าดึงดูดอย่าง Bones And All นี้ได้ในพฤศจิกายน แล้วเจอกันทั่วโรงหนัง

My Lovely Angel หรืออีกชื่อว่า You’re So Precious to Me เป็นงานแนวเพลิดเพลินน้ำดีที่เรียกน้ำตาอีกประเด็น

เอ่ยถึงความเชื่อมโยงนอกสายโลหิตที่เปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่ล้้ำค่าต่อชีวิตซึ่งกันและกัน ทางการเล่าเรียนชีวิตรู้เรื่องโลกของเขาทั้งคู่ที่ต่างสันโดษได้ร่วมเดินทางมาถึงจุดที่ศีรษะจิตใจผูกพันดุจเป็นครอบครัวเดียวกันได้เช่นไร เชิญไปติดตามมองกัน

ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ พัคแจชิก (สวมบทบาทโดย จินฉัน) ชายตัวผู้เดียวผู้มีอาชีพเป็นผู้แทนหาสาวแดนซ์เชียร์ รับจ้างงานโปรโมชั่นเบ็ดเตล็ด เป็นขี้เถ้าแก่กระทั่งๆแบบวันแมนโชว์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างเอง ตรวจตรารับส่งผู้รับจ้างในสังกัด 4-5 สาวด้วยรถตู้เก่าๆเป็นงานรับเหมาตอนจากกรุ๊ปอันธพาลอิทธิพล ซึ่งเขามีหนี้ค้างอยู่เยอะแยะ แต่เขาก็ยังใจดียอมผู้รับจ้างคนหนึ่งยืมเงินไปก้อนใหญ่

ปัญหาก็เลยเกิดขึ้นเมื่อหญิงที่ติดเงินเขาเสียชีวิตเฉียบพลัน และก็เขาอยากได้เงินคืนด่วน เพราะว่าตนเองก็กำลังตรากตรำค้างค่าใช้จ่ายในการเช่าบ้าน ก็เลยเข้าไปรื้อถอนค้นบ้านคุณหวังจะได้เงินคืนหรือพบแหล่งเงินใดบ้างที่เพียงพอจะไขปัญหาเบื้องหน้าได้ กลับไปพบเด็กผู้หญิงซอมซ่อวัย 7 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรสาวของลูกหนี้อยู่คนเดียว เรื่องเชื้อเชิญอึ้งกว่านั้นเป็น หนูน้อยอีอึนฮเย (เล่นบทโดย จองตรอกอน) คนนี้ ทั้งยังตาบอดแล้วก็หูหนวก ถ้าหากแจชิกไม่ดูดบุหรี่ อึนฮเยก็ไม่มีวันทราบหรอกว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา

เรื่องตกกระไดพลอยโจนเมื่อเจ้าของบ้านเช่ามาเจอเข้า เขาเลยจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นบิดาของอึนฮเย ประจวบเหมาะกับที่ตนเองยังไม่มีที่ซุกหัวนอน ก็เลยย้ายเข้ามาอยู่ตรงนี้ชั่วครั้งชั่วคราว หวังเบาๆคิดหาแนวทางเอาเงินคืน ขั้นต่ำก็เงินมัดจำบ้านนี้ แม้กระนั้นการปรับตัวอยู่ร่วมชายคากับเด็กน้อยอึนฮเย ทำให้เขาจำเป็นต้องทำอะไรๆหลายของใหม่ๆในชีวิตที่ไม่รู้จักไม่เคยทำมาก่อน

เริ่มด้วยสิ่งจำเป็นที่ต้องหาแนวทางติดต่อกับคุณ หาอาหารการกิน อาบน้ำให้ ไปจนกระทั่งดูแลยามเจ็บป่วย กลับไปกลับมาการจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้แปลงเป็นความตั้งใจโดยไม่ได้คาดคิด เขาพาคุณไปพบที่เรียน เพื่อจะได้ติดต่อกันเข้าใจง่ายดายมากยิ่งขึ้น กลับพบว่าไม่มีศูนย์ผลประโยชน์ไหนที่สอนเด็กไม่สมประกอบซ้ำไปซ้ำมาตาบอดหูหนวกได้เลย พัคแจชิกก็เลยเริ่มลงมือสอนอักษรเองผ่านการสัมผัสเขียนบนฝ่ามือ รวมถึงศึกษาจากการสัมผัสตัวเลเก๋อักษร

ซีปรี่ย์ดราม่าน่าดูจาก Netflix บอกได้คำเดียวว่าคอ Series หรือคนชอบดูหนังดราม่าอาชญากรรม ห้ามพลาด Peaky Blinders ทุกฤดูกาล เด็ดขาด!

อีกหนึ่งมหากาพย์ซีปรี่ย์ที่บอกเลยว่าถ้าหากเป็นคู่รักหนัง ถูกใจดูหนัง ต้องห้ามพลาดเลยจริงๆสำหรับ ซีปรี่ย์สายดาร์ค ในแนวอาชญากรรม, พีเรียด แล้วก็ดราม่า อย่างซีปรี่ย์ Peaky Blinders ซีปรี่ย์ที่มาในโทนโก้ๆในต้นแบบของ British Mafia พร้อมติดอยู่แร็คเตอร์มาดเข้ม จากช่อง BBC TWO (มีให้รับดูทาง Netflix) โดยในปีนี้ (2019) ก็ดำเนินมาถึง Season 5 ไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทางผู้กำกับอย่าง Steven Knight ก็ได้เกริ่นให้แฟนคลับได้ทราบกันก่อนแล้วว่า ซีปรี่ย์โคตรเดือดหัวข้อนี้ จะจบลงที่ Season 6 เพียงแค่นั้น! ซึ่งก็นับได้ว่าการเดินเรื่องในฤดูกาล 5 จำเป็นจะต้องเร็วทันใจ แล้วก็มีการเริ่ม “ขมวดปม” ที่สลับซับซ้อนขึ้น แล้วก็เรื่องราวที่รุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน

เกริ่นนำสำหรับใครกันแน่ที่ไม่ยังไม่เคยมอง Peaky Blinders เป็นซีปรี่ย์ที่ว่าด้วยเรื่องของพวกอันธพาลแก๊งค์หนึ่งในเมือง Birmingham “พีคกี้ ไบลน์เดอร์ส” ชื่อนี้ไม่ใช่ได้มาด้วยเหตุว่าโชคเข้าข้างอะไร แต่ว่าเป็นสมญานามที่รับการขนาดนามจากความกล้าหาญที่สมาชิกได้ไปก่อขึ้นครั้งแล้ครั้งเล่า ซึ่งก็คือการตำหนิดใบมีดโกนไว้ที่หมวกทรง “พีคกี้” ซึ่งเวลาสู้ แก๊งค์นี้ก็จะถอดหมวกที่แอบแฝงใบมีดไว้รอบๆขอบหมวก ออกมาเฉือนคอ สำหรับผู้แสดงนำ “ทอมมี่” หรือ “โธมัส เชลบี้” (แสดงนำโดย Cillian Murphy มั่นใจว่าคนชอบดูหนังหลายคนอาจรู้จักดีกันดี เพราะว่าพี่เอ็งเคยผ่านตามาจากภาพยนตร์ขึ้นหิ้งหลายๆเรื่อง อย่างเช่น Batman Begins ฯลฯ) แล้วก็เสริมความเถื่อนแบบจัดเต็มด้วยครอบครัวเชลบี้ มี พี่ชายคนโต “อาคุณร์” (Paul Anderson) น้องชาย “จอห์น” (Joe Cole) และก็อา “พอลลี่ เกรย์” (Helen McCrory) ซึ่งครอบครัวนี้มีธุรกิจหลักเป็นกระบวนการทำ “พนันม้า” และก็แน่ๆว่ายังเป็นอันธพาลผู้มีอำนาจในเบอร์มิงแฮม ที่มีทั้งคนรัก และก็คนเกลียดชัง

ก่อนหน้าที่ผ่านมา (ภาค 1-4) การเดินเรื่องของ Peaky Blinders จะไม่ย้ำเรื่องราวที่หยาบมากสักเท่าไรนัก แต่ว่าจะย้ำไปที่การเล่าเรื่องราวให้รอบคอบ ย้ำไปที่อารมณ์ของผู้แสดง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำไว้เจริญเอามากๆทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วม และก็รู้สึกตัวอีกครั้งก็จบฤดูกาลไปซะแล้ว! แม้กระนั้นสำหรับฤดูกาล 5 นั้นไม่ใช่เลย ด้วยเหตุว่าการปรับเรื่องราวให้มีความ “กระชับ” มากเพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกันก็สามารถปูรายละเอียดอื่นๆที่แทรกสอดเข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะ มองไม่ขาดไหมเกิน

โดยผู้แสดงนำของเรื่องอย่างโทมัส เชลบี้ หัวหน้าแก๊งค์ Peaky Blinders ในฤดูกาล 5 นี้ จะเห็นได้ชัดว่ามีการเติบโต แล้วก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จากครั้งก่อนเขาจะเป็นผู้ที่ถูกใจลงมือสะสางปัญหาต่างๆด้วยตัวเองดูเหมือนจะทั้งหมด แม้กระนั้นเมื่อโทมัสได้เลือกทาง “นักการเมือง” แล้ว การที่จะลงมาแก้ไขปัญหาต่างๆก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างเดิมเป็น เขาก็เลยจำเป็นต้องเลือกทำแบบ “ทำลดลง” แต่ว่า “คิดมากขึ้น” นั่นเอง ซึ่งพวกเราก็คิดว่าเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของนักแสดงที่มากขึ้น ทำให้การเดินเรื่องมีความเข้มข้นในด้านรายละเอียดมากขึ้นมาทันคราว

แม้กระทั่งมีการขมวดเรื่องราวให้มีความรวดเร็วขึ้น แม้กระนั้นรายละเอียด เรื่องต่างๆก็ยังคงเข้มข้นไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นเรื่องที่ยังคง “เดามิได้” ตามสไตล์ของ Series หัวข้อนี้ ที่บอกเลยว่าทำมาเจริญจริงๆอีกทั้งในด้านของการตัดต่อ เอฟเฟ็กต์ต่างๆการเล่าเรื่อง รวมไปจนกระทั่งการแสดงของผู้แสดง (โดยยิ่งไปกว่านั้นพี่สาว Polly) ที่โขมยซีนได้แทบทุกวินาทีที่พี่สาวมึงออกมา กล่าวได้ว่าเป็นซีปรี่ย์ที่มีส่วนประกอบครบสุดๆอีกเรื่องหนึ่งเลยล่ะ

พัคชานอุก ผู้กำกับดังจากหนัง “Oldboy” รวมทั้ง “The Handmaiden” กลับมาส่งผลงานในปีนี้ด้วยหนังสอบปากคำการสังหารผสมโรแมนติก “Decision to Leave” แล้วก็ได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวสิ่งแรกออกมาแล้วขอรับ

DECISION TO LEAVE การฆาตกรรมรัก ข้างหลังเขา ผลงานเรื่องใหม่ของยอดเยี่ยมผู้กำกับ จาก “Oldboy” แล้วก็ “The Handmaiden” ที่แฟนหนังทั้งโลกต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยปัจจุบันได้ปลดปล่อยใบปิดฉบับไทยออกมาครับผม

กับเรื่องราวความบ้าคลั่งโกรธแค้นครั้งใหม่ที่มีส่วนผสมของความเร้นลับ การฆาตกรรม ราคะ และก็รายละเอียดอันดำมิดหมีที่จะมาตอกย้ำซ้ำเติม “หลอกลวงหญิงหนึ่งพันเล่มเกวียน” ให้แรงมากกว่าเดิม ผ่านการโคจรมาเจอกันหนแรกของ 2 ยอดเยี่ยมดาราตัวท็อปของทวีปเอเชีย “ถังเหว่ย” (Lust, Caution) และก็ “พัคแฮอิล” (Memories of Murder) ภายใต้ความสามารถสุดคมคายของผู้กำกับ “ปาร์ค เฉลียงวุค” ที่ที่ผ่านมาเคยสร้างเสียงฮือฮาด้วยการเอารางวัลกร็องด์พรีซึ่งเท่ากันเหรียญเงินของคานส์จากภาพยนตร์เรื่อง “Oldboy” (2003)

หนังกล่าวถึงตำรวจสายลับที่ขยันรวมทั้งเอาจริงเอาจังนายหนึ่งที่เข้าไปสืบคดีการเสียชีวิตของชายคนหนึ่งที่ตกลงมาจากยอดดอยในหมู่บ้านบ้านนอก รวมทั้งมองจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นการฆาตกรรม นายตำรวจคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวเริ่มสงสัยว่าหญิงม่ายของคนตาย ที่เขาเริ่มรู้สึกมีความรักต่อคุณ บางทีอาจเป็นผู้ร้ายตัวจริง

พัคแฮอิล จาก “Memories of Murder” และก็ “The Host” กับ ถังเว่ย จาก “Lust, Caution” สวมบทนำเป็นตำรวจกับหญิงม่ายคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าว สมทบด้วยอีจองฮยอน (“Peninsula”), โกคยองพโย (“Reply 1988”) และก็ พัคยองอู (“Musa the Warrior”) หนังประเด็นนี้เป็นการสร้างของโมโฮ ฟิล์มถ่ายรูป กับ ซีเจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ระเบียงอุกร่วมเขียนบทหนังประเด็นนี้ด้วยกับ จองซอคยอง ที่เขาร่วมเขียนบทด้วยใน “The Handmaiden”

แบบอย่างมีงานภาพที่เชิญชวนไม่น่าไว้วางใจสมกับเป็นหนังแนวสอบปากคำการฆ่าสังหารจริงๆนะครับ มีระบุฉายรอบรอบแรกโลกในเทศกาลหนังเมืองคานส์เดือนนี้ หนังได้เอ็ม พิคพบร์ส รับหน้าที่จำหน่ายในบ้านพวกเราจะวางระบุฉายเอาไว้ภายในกันยายนนะครับ ดูแบบอย่าง ภาพนิ่งแรก รวมทั้งใบปิดเหมาะข้างล่างนี้

“ฮักเจ้าอีหลี”เรื่องราวของเคน ขำขันชายหนุ่มปลายแถวภาควิชาหมอลำมีชื่อ ฝันต้องการจะเป็นดารานำชายหมอลำเบอร์หนึ่ง

เรื่องราวที่ความฝันของ เคน ตลกขบขันชายหนุ่มปลายแถวภาควิชาหมอลำมีชื่อ ฝันต้องการจะเป็นดารานำชายหมอลำเบอร์หนึ่งเพื่ออยากที่จะให้คนยกย่องและก็เห็นด้วย ถ้าว่าเสียงร้องของเขากลับฟั่นเฟือนขั้นสุดกระทั่งผู้ที่ผ่านมาได้ยิน ยกมือปิดหูแทบจะไม่ทัน

แม้กระนั้นความฝันของเขาดูเหมือนเป็นแถวเพ้อ-ฝัน เพราะเหตุว่าเสียงร้องของเขามันฟั่นเฟือนขั้นสุด จนถึงผู้ฟังจะต้องขอให้เลิกเหอะบักเคน แต่ว่าเคนไม่ท้อ เมื่อเถ้าแก่ค่ายเพลง ลูกทุ่งหมอลำพระนครมาออดิชั่นหานักร้องออกซิงเกิลใหม่ เคนก็เสนอหน้าไปออดิชั่นกับเขาด้วย โดยมีคู่แข่งขันคนสำคัญเป็น ท็อป ผู้แสดงนำชายหมอลำสุดหล่อลูกคอยอดเยี่ยมในแผนกหมอลำเดียวกัน ความฝันของเคนที่จะเป็นนักร้องและก็เป็นผู้แสดงนำชายหมอลำ มีสหายร่วมกลุ่มตลกขบขันหมอลำสามเพื่อน รอเป็นทั้งยังพลังใจแล้วก็ตัวป่วน

แต่ว่าแล้ววันหนึ่งการกลับคืนถิ่นกำเนิดของ โดม ผู้จัดการวงคนใหม่ ที่ทั้งยังหล่อเข้มและก็เต็มไปด้วยสาระ รวมทั้งเป็นหลานชายผู้ครอบครองแผนกหมอลำ ก็มาโน้มน้าว เคนให้เริ่มมีหวังอีกรอบ แต่ว่าโดม และก็เพื่อนพ้องกลุ่มตลกโปกฮาจะพา เคน เอาชนะปัญหารวมทั้งก้าวขึ้นเป็นดารานำชายหมอลำดังที่ฝันได้ไหม แล้วก็พวกเขาจะพาภาควิชาหมอลำพ้นวิกฤติผู้ชมหายไปฉันฉับพลันได้ไหม หมู่คณะนับร้อยจะดิ้นรน ทั้งยังมอน อีกทั้งปั่นป่วนกันขนาดไหน

Love เลย 101 เกิดเรื่องราวความรักบนเบื้องต้นของปริศนาที่ว่าจะคืออะไร

เมื่อกระบี่แดงตำรวจชายหนุ่มใหญ่คว้าหัวใจของนางสวรรค์อย่าง แพ็ต ไปครอบครอง ปฐมบทที่ความรักที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นระหว่างคนสองผู้ที่ไม่เหมือนกันด้วยวัย ท่ามกลางการเช็ดกสังคมเพ่งเล็งถึงแบบอย่าง “ความเหมาะสม” ในความเชื่อมโยงของทั้งสอง นี่เป็น รักจริงที่บริสุทธิ์ หรือ เพียงแค่รักหยาบ ที่ชะตาชีวิตนำพาให้พวกเขาทั้งสองจำต้องมาพบเจอ

นี่เป็นผลงานของนักสร้างภาพยนตร์ชายหนุ่มแบบใหม่ อย่าง “เอ็กซ์ วัชรดงษ์” ที่พึ่งแจ้งมีสาเหตุจากผลงาน ‘แดง พระโขนง’ ไปหมาดๆจริงๆแล้วหนังประเด็นนี้น่าจะเป็นผลงานชิ้นแรกของเขาด้วย ด้วยเหตุว่าหนังคงจะถ่ายเอาไว้ก่อน ตั้งแต่โลกจะรู้จักกับโควิด-19 แม้กระนั้นพอดิบพอดีหนังช้าแล้วก็ได้วันฉายตามหลังมา โดยเขาควบคุมจากบทและก็เรื่องราวที่วางเค้าเรื่องด้วยความสามารถของ กิน จ๊กม๊ก นั่นเอง

แน่ๆว่าสิ่งในหนึ่งที่ผู้ใดน่าจะเป็นไม่สบายใจและก็เป็นห่วงเกี่ยวกับรายละเอียดของหนังหัวข้อนี้ ตั้งข้อซักถามถึงความเหมาะสมรวมทั้งความถูกต้องแน่ใจของเงื่อนหลักสำคัญความรักที่เกิดขึ้นระหว่างผู้แสดงอีกทั้ง 2 ในหนัง แน่ๆว่ามันออกจะสุ่มเสี่ยง แต่ว่าปัญหาเดียวกันกับที่คนภายนอกถามนั้น ก็ถือปัญหาหลักที่อยู่ในหนังอย่างเดียวกัน รวมทั้งบอกได้เลยว่าหนังหัวข้อนี้แทบจะไม่มีอะไรสื่อถึงความอนาจารเลย พวกเขาเลือกถ่ายทอดออกมาตามอารมณ์แล้วก็ความรู้สึกรักที่ไม่ถูกที่ผิดทางของคนแต่ละวัยแค่นั้น

กระบี่ตำรวจ กับ นักเรียน ใครๆตั้งแง่เอาไว้ก่อนแล้วว่าเป็นหลักสำคัญที่ไม่น่าจะทำออกมาเป็นหนัง แม้กระนั้นหนังเองก็มีจุดแก้ต่างแล้วก็บากบั่นชี้แจงเป็นอย่างยิ่งขั้นตอนในตนเองออกจะใช้ได้ มีที่ไปที่มาในหัวข้อนั้น แม้ว่าจะยังไม่ใช่สิ่งที่เพอร์เฟ็คอะไรสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นมันก็ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงเจตนาของผู้แสดงทั้งสองได้ ถึงแม้มันจะผิดต้องตามครรลอง ความเหมาะสม รวมทั้งข้อบังคับเลยก็ตาม

บอกตรงๆว่า Love เลย 101 ก็ไม่ใช่หนังที่ห่วยแตกแบบที่ตั้งแง่เอาไว้ล่วงหน้า บางทีก็อาจจะเป็นเพราะว่าความบากบั่นสร้างโทนออกมาเป็นหนังรักกล้วยๆก็เลยทำให้หนังยังมองออกมาเป็นธรรมชาติรวมทั้งซื่อสัตย์กับจริตของผู้ชมภาพยนตร์ไทย ที่แท้บทหนังก็บางครั้งอาจจะมิได้เรียกว่าดีสักเท่าไหร่ โครงเรื่องมีอยู่แค่เพียงถือมือเดียว แม้กระนั้นเอามาเปิดเผยขยายออกเอาจริงเอาจัง ระหว่างที่นั่งมองอยู่นั้นก็ยังแอบคิดว่าเพียงแค่ 90 นาที..นานจังเลย

Love เลย 101 ก็เลยให้อารมณ์ราวกับนั่งมองเอ็มวีเพลงลูกทุ่งแบบที่มีสตอปรี่ยาวๆเล่าไปเรื่อยอีกทั้งมุกรวมทั้งจังหวะในหนังแทบหาอะไรใหม่มิได้เลย ก็คือโทนหนังรักทั่วๆไปที่เคยเห็นมาบ่อยๆแม้กระนั้นอย่างต่ำหนังก็ยังใส่จังหวะเข้ามาในจังหวะที่กำลังใช้ได้ มันได้แออัดยัดเยียดใส่มุกที่เกินจำเป็น มีซีนดราม่ารวมทั้งซีนอารมณ์เคล้ากันไปเรื่อยหากว่ามุกบางมุกจะรู้สึกโบราณแล้วก็ยังติดมุมมองการดูถูกเพศแล้วก็สังคมอยู่ไปสักนิดสักหน่อย

อีกสิ่งที่หนังยกขึ้นมาอย่างเด่น มันก็คือการจับใช้เพลงอมตะของนักแสดงในตำนาน “เวลาเย็น คำสัญญา” มาเป็นส่วนประกอบเสริมของหนัง อารมณ์ราวกับจะเป็นหนังเพลงหรือมิวสิคัล แต่ว่าก็ยังมิได้แน่ชัดอะไรขนาดนั้น โชคร้ายไปนิดหน่อยที่หนังราวกับจะใช้จุดนี้มาสรรเสริญของนักร้องลูกทุ่งผู้มีอิทธิพล แต่ว่าพลังความพากเพียรที่หนังทำออกมานั้นยังไม่มากพอและไม่แจ่มแจ้งเพียงพอ ก็เลยแปลงเป็นเพียงแต่ส่วนประกอบเสริมแบบผิวเผินเพียงแค่นั้น

เมื่อเอ๋ยถึงการแสดงของดารานำนั้น ก็นับว่าออกจะใช้ได้ กิน จ๊กมก ก็ถือคล่องแคล่วปร๋อ เนื่องจากว่าเขาเล่นจากพล็อตเรื่องที่แต่งขึ้นมาเอง ความเป็นมือโปรของเขาก็คือช่วยหามหนังอีกทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่มือ ในตอนที่ “มั่งมีญ่า อาร์ไทย” ที่บางครั้งอาจจะไม่ใช่ผลงานหนังเรื่องแรกของคุณ แม้กระนั้นการแสดงของคุณนับว่ามองเห็นวิวัฒนาการขึ้นเป็นลำดับ บางครั้งอาจจะยังไม่ใช่แอคติ้งที่ดีงามแล้วก็เพอร์เฟ็ค แม้กระนั้นคุณก็ใช้ความชอบธรรมชาติของตนออกมาเป็นเสน่ห์ได้ด้วยดี

Devil In Ohio ภูติผีปีศาจในโอไฮโอ ลิมิเต็ดซีรีส์ Netflix 8 ตอนสุดท้าย มีบรรยายไทย

เรื่องราวของจิตแพทย์หญิงให้บ้านพักอิงแก่คนเจ็บเพราะเหตุว่าปรารถนาคุ้มครองเด็กหญิงจากลัทธิลึกลับ แม้กระนั้นการตัดสินใจคราวนี้บางทีอาจนำหายนะมาสู่ครอบครัวรวมทั้งชีวิตของคุณเอง ซีรีส์ 8 ตอนสุดท้ายสร้างขึ้นจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในชื่อเดียวกัน ที่ได้แรงดลใจมาจากความเป็นจริงของปัญหาภูตผีปีศาจในใจกลางเมืองเล็กๆในอเมริกา เมื่อดร.ซูซาน แมธิส จิตแพทย์ประจำโรงหมอให้บ้านพักอิงกับสาวน้อยปัญหาซึ่งแอบหนีออกมาจากลัทธิ ชีวิตของคุณกลับจำต้องกลับ เนื่องจากสาวน้อยผู้นี้อาจจะก่อให้ครอบครัวของคุณจำต้องพังทลาย

เนื่องจากว่าประเด็นนี้สร้างโดยอิงจากข้อเท็จจริงมาเป็นเค้าเรื่อง ด้วยเหตุนี้ผู้ใดกันแน่ที่รู้สึกว่าเรื่องแนวลัทธิปีศาจร้ายจะมีสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติอยู่ในเรื่องก็ตัดไปได้เลย ซึ่งโน่นทำให้เรื่องเกือบจะมองน่าผิดหวังกับผู้ที่มิได้ทราบจุดนี้มาก่อน อย่างคนเขียนก็ด้วยเพราะว่ารู้สึกว่าเป็นนิยายแต่งสยองขวัญตามธรรมดา

แม้กระนั้นปัญหาจริงๆไม่ใช่เพราะมันสร้างขึ้นมาจากเค้าเรื่องจริงหรอกครับผม แม้กระนั้นเป็นเนื่องจากตัวเรื่องปกติมากมายแทบมองไม่เห็นความพิเศษอะไรที่อยู่ในประเด็นนี้เลย ตัวเรื่องดำเนินไปแบบดราม่าชีวิตประจำวันของตัวซูซานที่เพียรพยายามรับดูแล “เม” เด็กผู้หญิงที่หนีจากลัทธิด้วยเรื่องเล่าที่คุณบอกถูกทรมานบาปจนกระทั่งจำเป็นต้องหนีเอาชีวิตรอด เรื่องแทบเป็นแถวชีวิตปัญหาดราม่าครอบครัวล้วนๆ80% อีกทั้งเรื่อง โดยเล่นเรื่องว่าเมเพียรพยายามเข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ให้ได้ ซึ่งก็มีซูซานเพียงผู้เดียวที่รู้เรื่อง แต่ว่าบุคคลอื่นกลับลำบากใจในตัวเมกับความประพฤติปฏิบัติแปลกๆของคุณ ที่เรื่องบากบั่นทำให้ดูเหมือนจะสยดสยอง แต่ไม่สยดสยองอะไรเลยนิดหน่อย ทั้งยังเรื่องบอกเลยว่าไม่มีฉากให้สยดสยองน่าสะพรึงกลัวอะไรให้มองเห็นเลย เว้นเสียแต่ฉากหัวหมูแทงบนหัวหุ่นไล่กาในตอนแรกๆของเรื่องแค่นั้น โน่นทำให้เสมือนซีรีส์หัวข้อนี้ไม่ตรงปกอย่างแรงในวิถีทางของทริลเลอร์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติแม้กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะก่อให้น่าสะพรึงกลัวมิได้ ตัวเด็กหญิงเมเองก็มิได้มองหลอนหรือน่าสะพรึงกลัวอะไรเลยนิดหน่อย หากแม้อีกทั้งเรื่องคุณจะบากบั่นทำอะไรแปลกๆเสมือนอย่างกับเป็นแม่มดมานะทำมนต์ดำใส่คนภายในครอบครัวก็ตาม

สิ่งที่ห่วยแตกของเรื่องตามมาเป็นการพยายามใส่ส่วนประกอบของแนวดราม่าชีวิตวัยรุ่นในสถานที่เรียนเข้ามาเพิ่มเติมอีก โดยให้เมได้ไปเรียนสถานที่เรียนเดียวกับบุตรสาวของซูซาน แล้วมีเรื่องมีราวราวความรัก มีเกย์เข้ามาเกี่ยวพันบ้างตามสูตรสำเร็จเน็ตฟลิกซ์ แถมมีโอนเอียงมาจะเป็นแถวหญิงรักหญิงอีกต่างหาก แม้กระนั้นยังดีที่เรื่องเบรคไว้ไม่มาเต็มกำลัง แต่ว่าก็เกือบจะๆชักชวนให้คิดได้อย่างงั้นหลายฉากว่าเมคิดอย่างไรกับบุตรสาวของซูซานกันแน่ แม้กระนั้นดังนี้ส่วนนี้มันก็มไ่สนุกสนานเอาซะเลย กระเป๋าฯเสมือนส่วนที่เพิ่มน้ำให้เรื่องมองน่ารำคาญขึ้นไปอีก

ในเสี้ยวที่เหลือของเรื่องเป็นนักแสดงตำรวจสายสืบที่เพียรพยายามไขปัญหาสาเหตุของลัทธินี้ แล้วหลังจากนั้นก็บากบั่นสืบหาสืบเรื่องราวต่างๆซึ่งพอน่าพอใจอยู่บ้าง แม้กระนั้นก็มิได้ถึงกับสนุกสนานอะไรมากมาย ส่วนนี้มีไว้เพื่อมาเปิดเงื่อนทิ้งเอาไว้ตอนสุดท้าย แม้กระนั้นก็เป็นเงื่อนแบบที่พวกเราก็ทราบมาทั้งยังเรื่องอยู่แล้วว่าเมเป็นเด็กผู้หญิงที่เปลี่ยนไปจากปกติแล้วก็คิดแผนทำอะไรลับหลังบุคคลอื่นเสมอๆด้วยเหตุนั้นเงื่อนด้านหลังเรื่องก็เลยเป็นอะไรที่ทายใจได้แน่นอนๆอยู่แล้ว แม้กระนั้นเรือ่งก็ยังจะใส่มาให้อย่างกับเป็นตอนจบปลายเปิดที่ว้าวๆแต่ว่ามันแป๊กสนิทปิดฝาโลงศพประเด็นนี้ไปเลยมากยิ่งกว่าครับผม นี่เป็นลิมิเต็ดซีรีส์ที่นักเขียนผิดหวังที่สุดตั้งแต่มองมาในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์เลย ผ่านได้ผ่านไปเลยไม่อาจจะหาอะไรที่ประทับจิตใจได้ในหัวข้อนี้เลยนิดหน่อยจริงๆครับผม