ปูตินแถลงต่อรัฐสภา ลุยรุกรานยูเครนต่อ-ระงับสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์

นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงต่อรัฐสภารัสเซียเมื่อวันอังคาร

ว่าจะเดินหน้าทำสงครามในยูเครนต่อไป และกล่าวหาประเทศในกลุ่มองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่นำโดยสหรัฐ ว่าเป็นผู้ก่อสงครามนี้ขึ้นมา

ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 เป็นการตอบโต้ยูเครนโจมตีแคว้นดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ที่รัสเซียอ้างว่าประชาชนต้องการอยู่กับรัสเซียมากกว่า และเป็นการหยุดยั้งแผนการของยูเครนที่จะโจมตีแคว้นไครเมียหลังจากนั้น

“ผมขอพูดย้ำอีกครั้ง พวกเขาเริ่มสงครามนี้ขึ้นมา เราเลยต้องใช้กำลังเพื่อหยุดมัน” นายปูติน กล่าว

ผู้นำรัสเซียวัย 70 ปี รายนี้ กล่าวอีกว่า ชาติตะวันตกไม่มีวันเอาชนะรัสเซียได้

เศรษฐกิจตะวันตกกำลังแพ้ภัยตัวเอง
นายปูติน กล่าวว่าหลังจากปฏิบัติการดังกล่าว บรรดาชาติตะวันตกก็ใช้มาตรการคว่ำบาตรทั้งทางทหาร ทางข้อมูล และทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่ขณะนี้มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้กำลังส่งผลเสียต่อชาติเหล่านั้นแทน

“พวกเขาเจอกับราคาสินค้าที่แพงขึ้นในประเทศตัวเอง โรงงานปิดตัว ภาคพลังงานล่มสลาย แล้วพวกเขาก็ไปบอกประชาชนของตัวเองว่ารัสเซียเป็นต้นเหตุ”

ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าจีดีพีของรัสเซียจะถูกปรับลดลงมา แต่สุดท้ายเศรษฐกิจก็ไม่ได้ล่มสลาย กลับกันรัสเซียมีการปรับโครงสร้างใหม่ และหันไปค้าขายกับประเทศอื่นๆ แทน

ระงับสนธิสัญญานิวเคลียร์สหรัฐ
อีกประเด็นที่นายปูตินกล่าวต่อสมาชิกรัฐสภารัสเซีย คือ แผนการระงับการมีส่วนร่วมกับสนธิสัญญาฉบับหนึ่งที่ทำกับสหรัฐ ในการจำกัดและลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ ที่เรียกว่า สนธิสัญญานิวสตาร์ต โดยอ้างว่าสหรัฐและนาโตไม่ได้ให้ความร่วมมือก่อน

“ด้วยเหตุนี้ ผมจำใจต้องประกาศในวันนี้ว่ารัสเซียกำลังระงับการมีส่วนร่วมกับสนธิสัญญาเชิงยุทธศาสตร์ที่ว่าด้วยอาวุธที่ใช้ในการโจมตีฉบับนี้” นายปูติน กล่าว

นายปูติน กล่าวอีกว่า รัสเซียจะเริ่มทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ทันทีถ้าสหรัฐทำก่อน

ข่าวอื่นๆ “สงครามลูกผสม” คืออะไร เยือนศูนย์ศึกษาภัยคุกคามโลกยุคใหม่ในฟินแลนด์

“สงครามลูกผสม” คืออะไร เยือนศูนย์ศึกษาภัยคุกคามโลกยุคใหม่ในฟินแลนด์

“สงครามลูกผสม” คืออะไร เยือนศูนย์ศึกษาภัยคุกคามโลกยุคใหม่ในฟินแลนด์

เหตุระเบิดใต้น้ำปริศนา การโจมตีทางไซเบอร์ของกลุ่มคนนิรนาม และขบวนการบ่อนทำลายประชาธิปไตยในชาติตะวันตกอันแยบยล เหล่านี้ล้วนเป็น “ภัยคุกคามแบบผสมผสาน” (hybrid threats)

บีบีซีได้เยี่ยมชมศูนย์ทำงานที่มีเป้าหมายต่อสู้กับสงครามรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งกำลังสร้างความวิตกกังวลให้ชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และสหภาพยุโรป หรือ อียู

ดร.เทยา ทิลลิไคเนน ให้คำนิยามคำว่า “สงครามลูกผสม” (hybrid warfare) เอาไว้ว่า “มันคือการสร้างความวุ่นวายต่อพื้นที่สารสนเทศ มันคือการโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ”

เธอคือผู้อำนวยการศูนย์เพื่อความเป็นเลิศในการต่อสู้ภัยคุกคามผสมผสานแห่งยุโรป (European Centre of Excellence for Countering Hybrid Threats หรือ Hybrid CoE) ที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์ เมื่อ 6 ปีก่อน

สงครามลูกผสม

ดร.ทิลลิไคเนน อธิบายว่า มันคือรูปแบบของภัยคุกคามที่ไม่ชัดเจน ซึ่งประเทศต่าง ๆ มองว่าเป็นภัยที่ยากในการต่อต้าน และการปกป้องตนเอง

แต่ภัยเหล่านี้เป็นอันตรายอย่างแท้จริง

เมื่อเดือน ก.ย.ปีก่อน เกิดเหตุระเบิดใต้ทะเลบอลติก ทำให้เกิดรูโหว่ที่ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream) บริเวณระหว่างแนวชายฝั่งเดนมาร์กและสวีเดน ท่อนี้สร้างขึ้นเพื่อส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังตอนเหนือของเยอรมนี

รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธส่วนเกี่ยวข้องอย่างทันควัน แต่บรรดาชาติตะวันตกสันนิษฐานว่ากรณีที่เกิดขึ้นอาจมาจากการที่รัสเซียต้องการตัดช่องทางส่งพลังงานเชื้อเพลิงแก่ชาติตะวันตก เพื่อลงโทษที่ให้การสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้การรุกรานของรัสเซีย

นอกจากนี้ยังมีกรณีแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งขณะเกิดเหตุมีผู้ตระหนักถึงภัยรูปแบบนี้เพียงไม่กี่คน แต่ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 คณะสอบสวนได้ข้อสรุปว่ามีการแทรกแซงจากรัสเซีย เพื่อทำลายโอกาสของนางฮิลลารี คลินตัน และช่วยเหลือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธเช่นกัน

ข้อกล่าวหานี้ระบุว่า มีการใช้ “บอท” บัญชีออนไลน์ปลอมทางโซเชียลมีเดียที่ควบคุมโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่สนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งทำงานจากสำนักงานใหญ่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

นอกจากนี้ ยังมีขบวนการเผยแพร่ข่าวปลอมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับแต่รัสเซียยกทัพรุกรานยูเครน โดยเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ และปล่อยข้อมูลเท็จ เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในสงครามที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้คนทั้งในรัสเซียและต่างประเทศเชื่อว่า การทำสงครามครั้งนี้เป็นการ “ปกป้องตนเอง” ของรัสเซีย

การจะช่วยรัฐบาลชาติตะวันตกในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามเหล่านี้ นาโตและอียูจึงก่อตั้ง Hybrid CoE ขึ้นในฟินแลนด์ เพราะเป็นชาติที่ดำเนินนโยบายเป็นกลางทางการเมืองมาหลายทศวรรษ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามฤดูหนาวที่รัสเซียเข้ารุกรานช่วงปี 1940

การที่มีพรมแดนติดรัสเซียเป็นระยะทาง 1,300 กม. ทำให้ฟินแลนด์เกิดความวิตกกังวลเรื่องภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นทุกขณะ และเริ่มหันเข้าหาชาติตะวันตกมากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกนาโตเมื่อปีก่อน

ที่ศูนย์ Hybrid CoE แห่งนี้ ดร.ทิลลิไคเนน นำทีมนักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ จากชาติสมาชิกนาโตและอียูราว 40 คน ซึ่งรวมถึงชาวอังกฤษคนหนึ่งที่ถูกยืมตัวมาจากกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร

เธออธิบายว่า ขณะนี้ทีมงานมุ่งศึกษาพื้นที่แถบขั้วโลกเหนือ และมีการทำแผนที่บ่งชี้ภัยผสมผสานที่อาจเกิดขึ้นได้

ดร.ทิลลิไคเนน ชี้ว่าบริเวณนี้มีแหล่งทรัพยากรพลังงานแห่งใหม่เกิดขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบรรดาชาติมหาอำนาจจะพยายามปกป้องผลประโยชน์ของตน นอกจากนี้ยังพบการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างมาก

“คำพูดของรัสเซียคือขั้วโลกเหนือเป็นภูมิภาคพิเศษที่อยู่นอกความขัดแย้ง และจะไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันรัสเซียกลับเสริมกำลังทหารที่นั่น” เธออธิบาย

บางที ความแตกต่างสำคัญของภัยคุกคามลูกผสมก็คือ คือภัยลักษณะนี้มักไม่ใช่การโจมตีทางทหารแบบดั้งเดิมที่ใช้อาวุธทำร้ายกัน แต่จะเป็นการลอบโจมตีที่ไม่เปิดเผยว่าเป็นฝีมือใครอย่างชัดเจน และมักมีอันตรายน้อยกว่า

ภัยลักษณะนี้ทำให้ยากจะบ่งชี้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เช่น เหตุโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ต่อเอสโตเนียในปี 2007 หรือเหตุท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมระเบิดใต้ทะเลบอลติกเมื่อปีก่อน ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ทิ้งร่องรอยหรือหลักฐานให้เอาผิดได้

ด้วยเหตุนี้ จึงมีหลายหนทางที่ชาติหนึ่งจะสร้างความเสียหายให้ชาติอื่นโดยไม่ต้องใช้ปฏิบัติการโจมตีทางทหารโดยตรง

Hybrid CoE ได้จัดทำคู่มือที่รวบรวม และจำลองสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากภัยรูปแบบนี้เอาไว้ให้ชาติต่าง ๆ เฝ้าระวังตัว เช่น การใช้อาวุธโจมตีใต้น้ำเพื่อประกาศเขตควบคุมรอบเกาะ หรือการปิดช่องแคบต่าง ๆ

หนึ่งในเหตุการณ์จริงที่ศูนย์แห่งนี้ได้ศึกษาอย่างละเอียดก็คือปฏิบัติการของรัสเซียในทะเลอะซอฟก่อนหน้าจะเข้ารุกรานยูเครน

ตั้งแต่เดือน ต.ค.2018 เป็นต้นมา การที่เรือสินค้ายูเครนจะเดินทางออกสู่ทะเลดำได้นั้น จะต้องเข้าคิวเพื่อรับการตรวจจากเจ้าหน้าที่รัสเซียเสียก่อน ซึ่งความล่าช้านี้อาจกินเวลาหลายวันไปจนถึง 2 สัปดาห์ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อยูเครน

ส่วนในแง่ของการเผยแพร่ข่าวปลอมนั้น ผู้เชี่ยวชาญของ Hybrid CoE ได้ศึกษาและประเมินผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วยุโรป และพบว่ารัสเซียคือฝ่ายชนะในสงครามข่าวสารครั้งนี้

ยกตัวอย่างในเยอรมนี ที่การโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลรัสเซียที่ว่า การโจมตียูเครนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตอบโต้การยั่วยุของนาโตนั้นกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ส่วนในสโลวาเกียนั้น มีผู้ร่วมแสดงความเห็นกว่า 30% ที่เชื่อว่าสงครามในยูเครนเกิดจากการจงใจยั่วยุของชาติตะวันตก

อย่างไรก็ตาม ดร.ทิลลิไคเนน ระบุว่า บทบาทของ Hybrid CoE ไม่ใช่การออกมาตรการต่อสู้กับภัยลูกผสมเหล่านี้ แต่คือการประเมิน และฝึกฝนให้ผู้อื่นเรียนรู้การปกป้องยุโรปจากภัยที่กำลังคุกคามความมั่นคงของภูมิภาคมากขึ้นทุกขณะ

อ่านทันโลกข่าวต่างประเทศที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ร่วมด้วยช่วยกัน! แคนาดาซื้อขีปนาวุธสหรัฐฯ ให้ยูเครน มะกันเปิดฐานทัพฝึกทหารเคียฟใช้ ‘แพทริออต’

ร่วมด้วยช่วยกัน! แคนาดาซื้อขีปนาวุธสหรัฐฯ ให้ยูเครน มะกันเปิดฐานทัพฝึกทหารเคียฟใช้ ‘แพทริออต’

แคนาดาจะซื้อระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่อากาศล้ำสมัย (NASAMS) ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เพื่อมอบแก้ยูเครน ตามถ้อยแถลงจากทำเนียบนากยรัฐมนตรีจิสตัน ทรูโด

หลังพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกา ในเม็กซิโก ซิตี เมื่อวันอังคาร (10 ม.ค.) ขณะเดียวกัน ทางสหรัฐฯ เองจะเปิดฐานทัพช่วยฝึกบุคลากรของเคียฟ สำหรับการใช้งานและบำรุงรักษา ระบบป้องกันภัยทางอากาศ “แพทริออต”

ข่าวต่างประเทศอัพเดต

เม็กซิโก ให้การต้อนรับ ทรูโด และไบเดน ที่เดินทางมาร่วมประชุมซัมมิตผู้นำอเมริกาเหนือ และทรูโด ได้บอกกับ ไบเดน เกี่ยวกับการจัดซื้อดังกล่าว ระหว่างพูดคุยกัน ในเรื่องของการมอบแรงสนับสนุนแก่ยูเครนที่กำลังทำสงครามกับรัสเซีย

อานิตา อนันด์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแคนาดา เขียนบนทวิตเตอร์หลังมีการแถลงในเรื่องนี้ “นี่เป็นครั้งแรกที่แคนาดาบริจาคระบบป้องกันภัยทางอากาศแก่ยูเครน” พร้อมเผยว่า โอเลคซีย์ เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ได้บอกกับเธอระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันว่า “ระบบป้องกัยภัยทางอากาศมีความสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับยูเครน”

NASAMS เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงจากภาคพื้น มีระยะทำการพิสัยใกล้ไปจนถึงปานกลาง และมันสามารถป้องกันต่อต้านการโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธ และอากาศยาน จากคำกล่าวของอนันด์

การบริจาคครั้งนี้มีมูลค่าราว 406 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 10,100 ล้านบาท) และเพิ่มเติมจากเงินช่วยเหลือ 500 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 12,500 ล้านบาท) ที่แคนาดารับปากว่าจะมอบให้ยูเครนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ถ้อยแถลงกระทรวงกลาโหมระบุ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แคดานาสัญญาว่าจะมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 25,000 ล้านบาท)

ถ้อยแถลงของทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดา ระบุด้วยว่า ทรูโด และ ไบเดน ยังได้พูดคุยกันในเรื่องพันธสัญญาร่วมในการปกป้องอเมริกาเหนือ ในนั้นรวมถึงกรณีแคนาดาจัดซื้อฝูงบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐฯ

แคนาดา ได้ข้อสรุปในข้อตกลงจัดซื้อฝูงบินรบ F-35 จำนวน 88 ลำ จากล็อคฮีด มาร์ติน คอร์ป บริษัทกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (9 ม.ค.) ในโครงการมูลค่า 19,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 470,000 ล้านบาท) สำหรับทดสอบฝูงบินที่เก่าเก็บของพวกเขา

ความเคลื่อนไหวของแคดานา มีขึ้นพร้อมๆ กับที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันอังคาร (10 ม.ค.) อเมริกาจะทำการฝึกฝนบุคลากรของยูเครน ณ ฐานทัพแห่งหนึ่งในรัฐโอคลาโฮมา เกี่ยวกับวิธีการใช้งานและการซ่อมบำรุงระบบป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัย “แพทริออต” ที่ทางวอชิงตันกำลังส่งมอบแก่เคียฟ

วอชิงตันสัญญาว่าจะส่งมอบกองพันแพทริออตแก่ยูเครนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เพื่อช่วยต้นต้านปฏิบัติการโจมตีทางอากาศไม่หยุดหย่อนของทางรัสเซีย ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของเคียฟ ซึ่งกดดันร้องขอระบบดังกล่าวจากสหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“การฝึกฝนแก่กองกำลังยูเครนในด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต จะเริ่มอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า ที่ฐานทัพฟอร์ท ซิลล์ โอคลาโฮมา” พลจัตวาแพต ไรเดอร์ โฆษกเพนตากอนระบุ “การฝึกฝนนี้จะเป็นการเตรียมการทหารยูเครนราวๆ 90 ถึง 100 นาย สำหรับปฏิบัติการและบำรุงรักษาระบบป้องกันตนเอง ตลอดคอร์สการฝึกฝนที่คาดหมายว่าจะใช้เวลาหลายเดือน”

“เมื่อถูกส่งเข้าประจำการ แพทริออตจะช่วยส่งเสริมศักยภาพป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนและมอบอีกหนึ่งศักยภาพแก่ประชาชนชาวยูเครน ในการป้องกันตนเองต่อการโจมตีทางอากาศอย่างไม่ลดละของรัสเซีย” เขากล่าว

ระบบป้องกันภัยทางอากาศมีบทบาทสำคัญในการปกป้องยูเครนจากการถูกโจมตี และขัดขวางมอสโกจากการควบคุมน่านฟ้า

อย่างไรก็ตาม หลังจากรัสเซียประสบความปราชัยในภาคสนามสมรภูมิแล้วสมรภูมิเล่า พวกเขาได้หันมาโจมตีอย่างเป็นระบบเล็งเป้าถล่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ของยูเครน ก่อความปั่นป่วนด้านพลังงานไฟฟ้า น้ำและการทำความร้อน ที่ป้อนแก่ประชาชนหลายล้านคน

แพทริออต ผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพมาแล้วในซาอุดีอาระะเบีย ในการสกัดขีปนาวุธแบบทิ้งตัวที่ออกแบบโดยอิหร่านและยิงออกมาจากเยเมน ในขณะที่ เรย์เธียน เทคโนโลยีส์ บริษัทสัญญาจ้างและผู้ผลิต เผยว่าระบบนี้ช่วยสกัดขีปนาวุธแบบทิ้งตัวระหว่างการสู้รบดังกล่าวมาแล้วมากกว่า 150 ลูก นับตั้งแต่ปี 2015

เป้าหมายของบรรดาผู้สนับสนุนระหว่างประเทศของเคียฟ คือสร้างระบบป้องกันภัยทางอากาศหลายชั้นแก่ยูเครน อันประกอบด้วยระบบที่มีพิสัยทั้งระดับต่ำ ระดับกลางและระดับสูง ที่สามารถป้องกันภัยคุกคามได้หลากหลาย ข่าวต่างประเทศแนะนำ>>> สหรัฐบังคับนักเดินทางจากจีนตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ

สหรัฐบังคับนักเดินทางจากจีนตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ

สหรัฐร่วมวงอินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน เตรียมบังคับตรวจโควิดนักเดินทางจากจีน หลังรัฐบาลปักกิ่งยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน หน่วยงานสาธารณสุขสหรัฐเผย ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. เป็นต้นไปผู้โดยสารอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปทุกคนจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 ไม่เกินสองวันเป็นลบก่อนเดินทางออกจากจีน ฮ่องกง หรือมาเก๊ามายังสหรัฐ คนที่เคยติดนานเกินกว่า 10 วันก่อนเดินทางจะต้องแสดงเอกสารแสดงว่าหายแล้วแทนการแสดงผลตรวจโควิด

ทั้งนี้ สหรัฐอ้างว่าเป็นเพราะไม่มีข้อมูลสายพันธุ์โควิดและมีความกังวลเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในจีนอาจให้ไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้สหรัฐยังขยายโครงการหาลำดับจีโนมโดยสมัครใจที่สนามบินไปถึงซีแอตเทิลและลอสแองเจลิส ทำให้จำนวนสนามบินสำหรับรวบรวมข้อมูลจากการตรวจเจอโควิดเพิ่มเป็น 7 แห่ง

ข่าวเศรษฐกิจ ต่างประเทศ

ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต่างชาติจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การที่จีนยกเลิกมาตรการเข้มงวดคุมโควิดทำให้ไวรัสแพร่อย่างรวดเร็วส่วนใหญ่ตรวจสอบไม่ได้ เป็นไปได้ว่าแต่ละวันมีคนติดเชื้อนับล้านๆ คน ที่ผ่านมารัฐบาลปักกิ่งถูกนานาชาติวิจารณ์ว่า ตัวเลขอย่างเป็นทางการของผู้ติดเชื้อโควิดและผู้เสียชีวิตไม่สอดคล้องกับขนาดการระบาด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐแถลง

“เรามีข้อมูลที่ได้รับการแบ่งปันมาอย่างจำกัดถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่กำลังเพิ่มสูง การเข้าโรงพยาบาล โดยเฉพาะการเสียชีวิต อีกทั้งการตรวจหาเชื้อทั่วประเทศจีนยังลดลง จึงยากที่จะทราบว่าอัตราการติดเชื้อแท้จริงเป็นเท่าใดกันแน่”

เนื่องจากประชาชนในจีนจำนวนมากไม่เคยเจอไวรัส, การเกิดขึ้นของสายพันธุ์โอมิครอน และการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ทางการสหรัฐจึงกังวลว่า การติดเชื้อจำนวนมากจะนำไปสู่การเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต

หนึ่งวันก่อนหน้านั้นทางการสหรัฐอ้าง “ขาดข้อมูลโปร่งใสจากจีน”คำโอดครวญที่รัฐบาลวอชิงตันมีมาตลอดต่อการจัดการโควิดของจีน แนวทางของทั้งสองประเทศแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

อัตราการติดเชื้อสูงมากในสหรัฐช่วงโควิดระบาดแรกๆ เปิดช่องให้ปักกิ่งอ้างว่า ตัวแบบมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มงวดของตนช่วยรักษาชีวิตประชาชนได้

ตอนนี้จีนดิ้นรนหาวัคซีนมาฉีดผู้สูงอายุและยังไม่อนุมัติวัคซีน mRNA ต่างชาติ อัตราการฉีดวัคซีนโดยรวมเกิน 90% แต่อัตราการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ใหญ่ลดเหลือ 57.9% และ 42.3% ในกลุ่มผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป

จีนอนุมัติวัคซีนผลิตในประเทศ 9 ตัว แต่ไม่มีตัวใดได้รับการปรับสูตรเพื่อจัดการกับสายพันธ์โอมิครอนที่ติดต่อกันได้ง่ายกว่า

สหรัฐเคยเสนอวัคซีน mRNA และความช่วยเหลืออื่นๆ ให้จีน แต่ทางการจีนประกาศออกสื่อว่า ตอนนี้ยังไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสหรัฐ “เรายังคงจัดเตรียมความช่วยเหลือไว้เสมอ” เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งกล่าว

ในเดือน มิ.ย. สหรัฐยกเลิกข้อกำหนดที่ใช้มานาน 17 เดือน ให้ประชาชนที่เดินทางเข้าสหรัฐโดยเครื่องบินต้องตรวจโควิดเป็นลบ แต่ยังคงกำหนดให้พลเมืองที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดก่อเดินทางเข้าสหรัฐ

ข่าวแนะนำ : ข่าวดี! อนามัยโลกเชื่อโควิดใกล้หยุดระบาด

ข่าวดี! อนามัยโลกเชื่อโควิดใกล้หยุดระบาด

ข่าวดี! อนามัยโลกเชื่อโควิดใกล้หยุดระบาด หลังยอดเสียชีวิตต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

 

ทันโลกข่าวต่างประเทศ

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO (World Health Organization) กล่าวในวันพุธว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2020 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาด ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ครั้งนี้ที่เชื่อว่าใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส แถลงข่าวที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า โลกไม่เคยอยู่ในจุดที่ดีเท่านี้ในการยับยั้งการระบาดของโควิด-19

“เรายังไม่ถึงจุดนั้น แต่ก็สามารถมองเห็นเส้นชัยได้แล้ว” เทดรอสกล่าว พร้อมเตือนว่าเรายังไม่สามารถหยุดวิ่งได้ในตอนนี้ “ขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องเร่งเครื่องยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถเข้าเส้นชัยได้จริงๆ เพื่อให้ได้รางวัลตอบแทนการทำงานหนักในช่วงที่ผ่านมา”