Plan 75 วันเลือกตาย เป็นหนังประเทศญี่ปุ่นที่เรียกเสียงฮือฮาได้เด่นที่สุดในเทศกาลเมืองคานส์ปีปัจจุบัน ทั้งยังยังได้ถูกรับเลือกเป็นผู้แทนจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2023
และก็นี่เป็น “Plan 75 วันเลือกตาย” หนังดราม่ากระฟัดกระเฟียดสังคมคนแก่ได้อย่างมากถ่วงแล้วก็ตรงประเด็น กับมุมมองการสะท้อนการขับเขยื้อนไปสู่สังคมที่เต็มไปด้วยคนวัยแก่ที่มีอัตรามากยิ่งกว่าหนุ่มสาว ที่ทำให้ภาครัฐต้องหาทางออก ถึงเป็นเพียงแค่หนังเพียงแค่ก็บางทีอาจจะแปลงเป็นความเป็นจริงในอนาคตก็มีเป็นได้
Plan 75 วันเลือกตาย เกิดเรื่องราวเหตุในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นบัญญัติกฎหมายอนุญาตให้สังหารคนสูงอายุ อายุ 75 ปีขึ้นไปฟรี พร้อมกับมอบเงินทดแทนให้ด้วย เพื่อจัดการกับปัญหาจำนวนผู้สูงวัยที่มากจนถึงเกินจุดสมดุลในสังคมคนวัยชรา ยายคนหนึ่ง กำลังลังเลว่าคุณควรจะรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลดีหรือเปล่า และก็จะจัดแจงกับชีวิตในตอนตอนปลายชีวิตที่แสนลำพังแบบนี้ยังไงถัดไป
นี่เป็นผลงานการควบคุมของนักสร้างภาพยนตร์หญิงไฟแรง “ฮายากาวะ จิเอะ” ที่กำลังโดนจับตามองอยู่ไม่น้อย ในหัวข้อนี้คุณได้จับเอาบทความจากแนวความคิดของ “เจสัน เกรย์” ผู้ชำนาญอยู่ในแวดวงหนังประเทศญี่ปุ่น มาดัดแปลงแล้วก็แปลความออกมาเป็นบทหนังที่คุณเรียบเรียงด้วยตัวเอง บนฐานรากของโลกสมมุติในอนาคตที่บางทีก็อาจจะอ้างอิงถึงโลกในชีวิตในตอนนี้ อยู่บ้าง กับสภาวะไปสู่สังคมคนสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นต้องเจอหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่แท้

เพียงแค่แนวความคิดแล้วก็คอนเซ็ปต์ของหนังก็จัดว่าซื้อใจผู้ชมไปได้เต็มๆแล้ว ปัญหาที่ท้าก็คือจะเล่าหนังออกมายังไง ให้ประสมประสานออกมาเป็นดราม่าที่สะท้อนความนึกคิดและไม่ใช่หนังที่ฟูมฟายเกินความจำเป็น รวมทั้งผู้กำกับหญิงรายนี้เลือกแนวทางสำหรับในการเล่าทางมุมมองของผู้แสดงต่างๆในเรื่องราวเดียวกัน เป็นแถวคิดเชิงทับซ้อนที่พอดีได้อย่างงดงาม จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไม แล้วก็เปลี่ยนออกมาเป็นหนังที่ทำให้ผู้ชมได้ขบคิดตามไปด้วยตลอดระยะเวลา กับปริศนาว่าที่ว่า “หาก…”
ถึงแม้ Plan 75 จะมีโทนการเล่าเรื่องที่นุ่มลึกแล้วก็ค่อนข้างจะนิ่งๆไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ว่าก็สามารถทำให้ผู้ชมจ้องติดตามการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ความเจริญแนวความคิดของทุกผู้แสดงได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ ที่พวกเขาต่างแก่ชราลงแต่ละวัน และไม่ต้องการจะเป็นภาระหน้าที่ให้กับผู้ใดกัน แต่ว่าด้วยเหตุว่าความโรยราของร่างกาย บางคราวก็เป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิต หรือจะเป็นมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลหลักการนี้ ที่แม้ว่าจะแบกรับหน้าที่มาก่อนเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงมีความเป็นคนแอบอยู่ในตัวทุกคน
Plan 75 นับได้ว่าเป็นหนังที่มีปัญหาแจ่มกระจ่างเป็นอันมาก แจ่มชัดว่าอยากติดต่อไปในแนวทางใดแล้วก็สะท้อนแนวทางนั้นๆออกมาได้ค่อนข้างจะกระจ่าง ถึงแม้การมีหลายผู้แสดงให้จุดโฟกัสนั้นบางครั้งก็อาจจะไม่สามารถที่จะครอบคลุมเนื้อหาได้ทั้งหมดทั้งปวงก็ตาม แม้กระนั้นจำต้องเห็นด้วยว่าฉากเปิดของหนังประเด็นนี้เป็นอะไรที่น่าแปลกใจรวมทั้งเสียใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งกระนั้นก็จะต้องยกย่องมุมมองและก็แนวความคิดของผู้กำกับที่ต้องการจะสื่อถึงผู้ชมได้อย่างไม่อ้อมค้อมตั้งแต่นาทีแรก มันเป็นฉากที่สำเร็จลัพธ์ของหนังทั้งยังเรื่องทั้งปวงเลยก็ว่าได้
และก็การที่หนังได้ดาราหนังอาวุโส “จิเอโกะ ไบโซะ” มาแบกรับบทนำอีกทั้งเรื่องในวัย 80 ปีของคุณ ก็ถือเป็นการมอบโอกาสแล้วก็ปลดปล่อยให้คุณได้โชว์ประสิทธิภาพทางการแสดงของแท้ออกมาอีกรอบ นี่เป็นดาราหนังรุ่นเก๋าที่เชี่ยวชาญในแวดวงสำราญใจประเทศญี่ปุ่นมานานถึง 6 ทศวรรษ กับงานแสดงที่น่าจะเป็นร้อยกว่าเรื่อง คุณสามารถหามหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้ด้วยการแสดงกล้วยๆและก็ทรงอำนาจ ไม่ใช่แค่เพียงแค่ผ่านบทสำหรับพูด แต่ว่าอินเนอร์และก็ท่าทีต่างๆออกมาได้อย่างถ่องแท้ในทุกส่วนประกอบ หนังประเด็นนี้ก็เลยแปลงเป็นการกลับมาเป็นนางเอกหนังอีกรอบในรอบนับเป็นเวลาหลายปีของคุณ
ในตอนที่ผู้แสดงอาวุโสอีกผู้คนจำนวนมากที่มาสมทบในหัวข้อนี้ก็นับว่าเข้ามาเสริมส่วนประกอบทำให้หนังมองแข็งแรงและก็ตอบปัญหาหนังให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ติดอยู่ซุโยชิ คูชิดะ” ที่นับว่าให้การแสดงแบบน้อยแต่ว่ามากมาย มาไม่มากแต่ว่าออกจะทรงอำนาจ ส่วนดาราหนังแบบใหม่ อย่าง “ฮายาโตะ อิโซมุระ” หรือ “ยูไม่ คาวะอิ” หน้าที่บางครั้งอาจจะมิได้มีแก่นลึกเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็เป็นส่วนเสริมที่สำคัญ เหมือนกับ “สเตฟานี่ อาริแอนน์” ในบทผู้ย้ายที่อยู่ชาวประเทศฟิลิปปินส์ ที่เสมือนจะไม่มีอะไร แม้กระนั้นนักแสดงนี้กลับเต็มไปด้วยมิติที่เสริมหนังหัวข้อนี้ขึ้นมาเจริญอีกผู้แสดงหนึ่ง
ตกลงว่า Plan 75 วันเลือกตาย จัดได้ว่าเป็นหนังที่กระทบกระแทกตรงปัญหาที่ต้องการจะติดต่อสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยม แมสเสจของหนังค่อนข้างจะแข็งแรงมากมาย มากมายเสียจนกระทั่งทำให้ผู้ชมจะต้องคิดเหมือนตามแล้วก็ฉุกคิดและก็แอบดูไปถึงอนาคตว่า หากพวกเราตกอยู่ในเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกับผู้แสดงในประเด็นนี้ พวกเราจะตกลงใจจัดแจงชีวิตตนเองเช่นไร? แล้วก็ยิ่งคิดตามก็ยิ่งอินไปกับรายละเอียดของหนัง กับอนาคตที่อย่างไรพวกเราบางทีอาจจะจำต้องพบกับสภาวะสังคมผู้อาวุโสรออยู่ข้างนานแน่ๆ