“The Flash เดอะแฟลช” ยินดีต้อนรับเข้าสู่มัลติเวิร์สกับกลิ่นดราม่าสไตล์ดีซี

“Hard Feelings วัยพลุ่งพล่าน” เพศศึกษา 18+ ฉบับเยอรมัน สยิวแบบมีหัวใจ

หากว่าย้อนกลับไปเมื่อสักช่วงต้นยุคปี 2000s น่าจะเป็นยุครุ่งเรื่องของตลกวัยรุ่นพล็อตสัปตนเกี่ยวกับฮอร์โมนทางเพศ มีหนังแนว ๆ นี้หลายเรื่องที่ถูกสร้างออกมาและดังเปรี้ยงทีเดียว วันเวลาผ่านไปหลายสิบปี หนังแนวนี้ก็ล้มหายตายจากไปตามเทรนด์ แต่ก็ยังมีออกมาบ้างประปราย เพียงแต่ยังไม่มีเรื่องไหนที่ล้มบัลลังก์ความคลาสสิกนั้นได้ ก่อนมาพบกับ “Hard Feelings วัยพลุ่งพล่าน” (Hammerharte Jungs) หนังวัยรุ่นสัญชาตเยอรมัน ที่ถึงจะออกตัวแรงแบบเสียวซาบซ่าน…แต่ก็ยังมีหัวใจอยู่

Hard Feelings วัยพลุ่งพล่าน เป็นเรื่องราวของ ชาร์ลี กับ เพาล่า พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่บัดนี้เขาเติบโตกลายเป็นเด็กนักเรียน ม.ปลาย แต่กลับเผชิญหน้ากับปัญหาการเข้าสังคม เพราะปมด้อยเกี่ยวกับประเด็นเครื่องเพศ กระทั่งวันหนึ่งมีสายฟ้าผ่าฟาดลงมาใกล้กับพวกเขา นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องประหลาด ๆ ทั้งคู่ต้องรับมือกับแรงกระตุ้นทางเพศกับฮอร์โมนที่พุ่งสูงขึ้น กับความรู้สึกอับอายขายหน้าในสังคมโรงเรียน ที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวที่ไม่มีใครไว้วางใจได้เลย นอกจากพวกเขาที่มีกันและกัน

ว่ากันตามเนื้อผ้า Hard Feelings ก็แทบจะไม่ใช่หนังที่มีประเด็นอะไรแปลกใหม่เลย ไม่ต่างจากการหยิบเอาหนังวัยรุ่นทะลึ่งตึงตังเมื่อ 20 ปีก่อน มาใส่ขวดเขย่าและเล่าใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบที่ปรับให้เข้ากับยุคสมัยของสังคมปัจจุบันมากยิ่งขึ้น แม้ว่าหนังจะเปิดเรื่องมาแบบ 18+ ทั้งแซ่บ ทั้งหวาบหวิว ค่อนข้างตรงไปตรงมา เหมือนกับการเปิดหนังสือเรียนเรื่องเพศศึกษาอะไรทำนองนั้น แต่กลับไม่ใช่ความทะลึ่งที่สูญเปล่าอะไรแต่อย่างใด

ถือว่าน่าฉงนใจไม่น้อยที่ ‘The Invitation’ ได้ขึ้นชั้น 1 บ็อกซ์ที่ทำงานของอเมริกา ทั้งๆที่หน้าหนังสยองขวัญแบบงี้น่าจะไปฉายในต.ค.รับเทศกาลฮาโลวีนมากยิ่งกว่า

ถึงกระนั้นจุดที่น่าดึงดูดของมันก็มีไม่น้อยอีกทั้งการมีไอเดียเริ่มจากวรรณกรรมสยองขวัญสุดคลาสสิกแล้วก็เป็นบทนำในหนังเมนสตรีมนอกแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ของ ท้องนาตาลี เอ็มมานูเอล (Nathalie Emmanuel) สาวผิวเข้มผมหยิกที่ครอบครองใจชายหนุ่มๆที่ติดตามแฟรนไชส์รถยนต์ซิ่งมานาน

หนังจะเล่าของ ‘อีวี’ ผู้แสดงของเอ็มมานูเอลที่พึ่งสูญเสียแม่กระทั่งรู้สึกคว้างอยากได้ครอบครัวเป็นที่พึ่งพิง โชคเข้าข้างคุณเมื่อสหายสาวแอบถือชุดตรวจดีเอ็นเอเพื่อตามหาเครือญาติที่ห่างหายมานานจากงานค็อกเทลที่คุณไปทำงานเป็นบริกร ไม่นานอีวีก็ได้รับการติดต่อจากโอลิเวอร์ ที่กล่าวถึงว่าเป็นเครือญาติของคุณมาจากอังกฤษและก็ผลจากการพบเจอก็คือคุณเจอตนเองบินผ่านประเทศสู่คฤหาสน์ในแถบบ้านนอกของอังกฤษ รวมทั้งได้เจอกับ ‘วอลเทอร์’ ผู้ครอบครองเคหาสน์อันแสนหรูหราที่แสดงออกอย่างแจ่มแจ้งว่าเขาพอใจคุณไม่น้อย แม้กระนั้นชีวิตที่ราวกับฝันกำลังจะพาอีวีไปพบกับความเป็นจริงอันน่าขนลุกที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังเชื้อสายของคุณ

กล่าวแบบตรงไปตรงมาก็คือบทหนังของ กางลร์ บัตเลอร์ (Blair Butler) แสดงออกเด่นชัดเลยว่าได้แรงจูงใจมาจาก ‘Dracula’ นิยายสยองขวัญระดับขึ้นหิ้งของ บราม สโตเกอร์ (Bram Stoker) โดยจับจับเอามาเล่าโดยชักจูงผู้ชมด้วยพล็อตแบบหนังโรแมนติก สินเดอร์เรลลา สาวชั้นล่างจากนิวยอร์กมาเจอรักกับคนรวยชายหนุ่มในคฤหาสน์หรูบริเวณบ้านนอกของอังกฤษก่อนที่จะเบาๆเผยธาตุแท้ของภูติผีในรอยเปื้อนคนร่ำรวยออกมา ซึ่งเอาจริงเอาจังๆแล้วบทของบัตเลอร์ก็มีไอเดียที่ดีไม่น้อยเลยจ๊าขอรับ

แต่ว่าแล้วมันก็ยังเหลือช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ชมอดสงสัยมิได้อยู่ดีตั้งแต่นางเอกตกลงใจบินไปอังกฤษทั้งๆที่พึ่งพบกับผู้ที่อ้างตัวเป็นเครือญาติหนแรกหรือการได้พบเห็นกับพ่อบ้านแล้วก็เหล่าคนใช้ลีลาแปลก ไปจนกระทั่งหนูน้อยไฮโซที่เสมือนหลุดมาจากตัวนางร้ายละครคุณงามความดีบน Tik Tok แม้กระนั้นหนูอีวีก็ยังคงทนอยู่ในคฤหาสน์ถัดไปเพียงแต่ด้วยเหตุว่าผู้ครอบครองเป็นชายหนุ่มหล่อมาเคาะประตูขอนอนด้วยเท่านั้นเอง

รวมทั้งยังน้อยเกินไป ในเมื่อนี่เป็นหนังสยองขวัญที่มุ่งขายความน่าสยดสยองแต่งานกำกับของ เจสสิกา เอ็ม ธอมป์สัน (Jessica M. Thompson) กลับไม่ตอบปัญหาสักเท่าไหร่เพราะว่านอกเหนือจากสกอร์ตุ้งแช่ที่ขยันมาสร้างความสะดุ้งแล้ว ตัวหนังไม่อาจจะสร้างความน่ากลัวอะไรให้ผู้ชมได้แม้กระทั้งนิดหน่อย ส่วนจุดหักมุมของหนังที่จะไปทางเพื่อนฝูงหญิงพลังหญิงก็มองไม่ถูกที่ผิดทางไปเสียหมดจนกระทั่งเสียดายไอเดียประดิษฐ์เริ่มต้นเป็นจำนวนมาก

ภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งราวที่ได้ได้โอกาสฉายในเทศกาขรมรวมทั้งช้านานถึง 8 นาทีอย่างยิ่งจริงๆลภาพยนตร์เวนิสอย่างเรื่อง Bones And All 

Bones And All นี้ได้ผู้แสดงนำฝ่ายมากมายความสามารถอย่าง ทิโมธี ชาลาเมต์ และก็ เทย์เลอร์ รัสเซลล์ ที่มารับบทบาทในคราวนี้โดยเกิดเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นกินเนื้อคน สำหรับ ทิโมธี ชาลาเมต์ ที่จะมารับบทเป็น Lee วัยรุ่นกินมนุษย์นั้น เขาเคยผ่านผลงานอันสะดุดตามาแล้วอย่างเรื่อง Dune (2021) และก็เมื่อได้เรื่องสมทบด้วยกันกับ เทย์เลอร์ รัสเซลล์ จากเรื่อง Escape Room (2017) บอกได้คำเดียวว่านี่เป็นการเจอกันที่ชะตาชีวิตจริงๆ

ทั้งภาพยนตร์ Bones And All ยังได้รับการควบคุมโดย ลูกา กวาดาญีโน ซึ่งผลงานที่เขาเคยประดิษฐ์กระทั่งเผชิญเสร็จมาแล้วนั้นไม่กล่าวถึงคงจะมิได้มันก็คือ Call Me By Your Name (2017)

Bones And All นั้นได้รับการดัดแปลงแก้ไขจากนิยายเกี่ยวกับวัยรุ่นที่เป็นมนุษย์กินมนุษย์ในชื่อนิยายเดียวกันว่า Bones And All จากผู้ประพันธ์ ค้างไม่ล ดิแองเจลิส ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของ Lee (รับบทบาทโดย ทิโมธี ชาลาเมต์) รวมทั้ง Maren (สวมบทโดย เทย์เลอร์ รัสเซลล์) แฟนวัยรุ่นกินมนุษย์ที่จำต้องศึกษาการใช้ชีวิตด้วยตัวเองในช่วงเวลาที่พวกเขาถูกไล่ส่งออกมาจากสังคม

Bones And All นั้นเป็นนิยายที่ได้รับรางวัล Alex Awards ในปี 2016 ซึ่งแทรกสอดด้วยข้อความสำคัญทางด้านสังคมเกี่ยวกับวัยรุ่นเยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น สิทธิสตรี, ความอ้างว้าง, ความรังเกียจตัวเอง, รวมทั้ง ปัญหาเกี่ยวกับทางคุณธรรมของการกินเนื้อมนุษย์ และก็ปัจจุบันนี้ภายใต้การนำของ ลูกา กวาดาญีโน เขาได้ประดิษฐ์ผลงานชิ้นนี้จากนิยายมาสู่ภาพยนตร์รวมทั้งนำไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ความซาบซึ้งในเหล่าผู้ชมนั้นมีมากมายล้นกระทั่งจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนตบมือให้กับ Bones And All นานถึง 8 นาทีอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับเมืองไทยนั้น สามารถติดตามรับดูภาพยนตร์ที่น่าดึงดูดอย่าง Bones And All นี้ได้ในพฤศจิกายน แล้วเจอกันทั่วโรงหนัง

พัคชานอุก ผู้กำกับดังจากหนัง “Oldboy” รวมทั้ง “The Handmaiden” กลับมาส่งผลงานในปีนี้ด้วยหนังสอบปากคำการสังหารผสมโรแมนติก “Decision to Leave” แล้วก็ได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวสิ่งแรกออกมาแล้วขอรับ

DECISION TO LEAVE การฆาตกรรมรัก ข้างหลังเขา ผลงานเรื่องใหม่ของยอดเยี่ยมผู้กำกับ จาก “Oldboy” แล้วก็ “The Handmaiden” ที่แฟนหนังทั้งโลกต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยปัจจุบันได้ปลดปล่อยใบปิดฉบับไทยออกมาครับผม

กับเรื่องราวความบ้าคลั่งโกรธแค้นครั้งใหม่ที่มีส่วนผสมของความเร้นลับ การฆาตกรรม ราคะ และก็รายละเอียดอันดำมิดหมีที่จะมาตอกย้ำซ้ำเติม “หลอกลวงหญิงหนึ่งพันเล่มเกวียน” ให้แรงมากกว่าเดิม ผ่านการโคจรมาเจอกันหนแรกของ 2 ยอดเยี่ยมดาราตัวท็อปของทวีปเอเชีย “ถังเหว่ย” (Lust, Caution) และก็ “พัคแฮอิล” (Memories of Murder) ภายใต้ความสามารถสุดคมคายของผู้กำกับ “ปาร์ค เฉลียงวุค” ที่ที่ผ่านมาเคยสร้างเสียงฮือฮาด้วยการเอารางวัลกร็องด์พรีซึ่งเท่ากันเหรียญเงินของคานส์จากภาพยนตร์เรื่อง “Oldboy” (2003)

หนังกล่าวถึงตำรวจสายลับที่ขยันรวมทั้งเอาจริงเอาจังนายหนึ่งที่เข้าไปสืบคดีการเสียชีวิตของชายคนหนึ่งที่ตกลงมาจากยอดดอยในหมู่บ้านบ้านนอก รวมทั้งมองจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นการฆาตกรรม นายตำรวจคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวเริ่มสงสัยว่าหญิงม่ายของคนตาย ที่เขาเริ่มรู้สึกมีความรักต่อคุณ บางทีอาจเป็นผู้ร้ายตัวจริง

พัคแฮอิล จาก “Memories of Murder” และก็ “The Host” กับ ถังเว่ย จาก “Lust, Caution” สวมบทนำเป็นตำรวจกับหญิงม่ายคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าว สมทบด้วยอีจองฮยอน (“Peninsula”), โกคยองพโย (“Reply 1988”) และก็ พัคยองอู (“Musa the Warrior”) หนังประเด็นนี้เป็นการสร้างของโมโฮ ฟิล์มถ่ายรูป กับ ซีเจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ระเบียงอุกร่วมเขียนบทหนังประเด็นนี้ด้วยกับ จองซอคยอง ที่เขาร่วมเขียนบทด้วยใน “The Handmaiden”

แบบอย่างมีงานภาพที่เชิญชวนไม่น่าไว้วางใจสมกับเป็นหนังแนวสอบปากคำการฆ่าสังหารจริงๆนะครับ มีระบุฉายรอบรอบแรกโลกในเทศกาลหนังเมืองคานส์เดือนนี้ หนังได้เอ็ม พิคพบร์ส รับหน้าที่จำหน่ายในบ้านพวกเราจะวางระบุฉายเอาไว้ภายในกันยายนนะครับ ดูแบบอย่าง ภาพนิ่งแรก รวมทั้งใบปิดเหมาะข้างล่างนี้

“ฮักเจ้าอีหลี”เรื่องราวของเคน ขำขันชายหนุ่มปลายแถวภาควิชาหมอลำมีชื่อ ฝันต้องการจะเป็นดารานำชายหมอลำเบอร์หนึ่ง

เรื่องราวที่ความฝันของ เคน ตลกขบขันชายหนุ่มปลายแถวภาควิชาหมอลำมีชื่อ ฝันต้องการจะเป็นดารานำชายหมอลำเบอร์หนึ่งเพื่ออยากที่จะให้คนยกย่องและก็เห็นด้วย ถ้าว่าเสียงร้องของเขากลับฟั่นเฟือนขั้นสุดกระทั่งผู้ที่ผ่านมาได้ยิน ยกมือปิดหูแทบจะไม่ทัน

แม้กระนั้นความฝันของเขาดูเหมือนเป็นแถวเพ้อ-ฝัน เพราะเหตุว่าเสียงร้องของเขามันฟั่นเฟือนขั้นสุด จนถึงผู้ฟังจะต้องขอให้เลิกเหอะบักเคน แต่ว่าเคนไม่ท้อ เมื่อเถ้าแก่ค่ายเพลง ลูกทุ่งหมอลำพระนครมาออดิชั่นหานักร้องออกซิงเกิลใหม่ เคนก็เสนอหน้าไปออดิชั่นกับเขาด้วย โดยมีคู่แข่งขันคนสำคัญเป็น ท็อป ผู้แสดงนำชายหมอลำสุดหล่อลูกคอยอดเยี่ยมในแผนกหมอลำเดียวกัน ความฝันของเคนที่จะเป็นนักร้องและก็เป็นผู้แสดงนำชายหมอลำ มีสหายร่วมกลุ่มตลกขบขันหมอลำสามเพื่อน รอเป็นทั้งยังพลังใจแล้วก็ตัวป่วน

แต่ว่าแล้ววันหนึ่งการกลับคืนถิ่นกำเนิดของ โดม ผู้จัดการวงคนใหม่ ที่ทั้งยังหล่อเข้มและก็เต็มไปด้วยสาระ รวมทั้งเป็นหลานชายผู้ครอบครองแผนกหมอลำ ก็มาโน้มน้าว เคนให้เริ่มมีหวังอีกรอบ แต่ว่าโดม และก็เพื่อนพ้องกลุ่มตลกโปกฮาจะพา เคน เอาชนะปัญหารวมทั้งก้าวขึ้นเป็นดารานำชายหมอลำดังที่ฝันได้ไหม แล้วก็พวกเขาจะพาภาควิชาหมอลำพ้นวิกฤติผู้ชมหายไปฉันฉับพลันได้ไหม หมู่คณะนับร้อยจะดิ้นรน ทั้งยังมอน อีกทั้งปั่นป่วนกันขนาดไหน

Plan 75 วันเลือกตาย เป็นหนังประเทศญี่ปุ่นที่เรียกเสียงฮือฮาได้เด่นที่สุดในเทศกาลเมืองคานส์ปีปัจจุบัน ทั้งยังยังได้ถูกรับเลือกเป็นผู้แทนจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2023

และก็นี่เป็น “Plan 75 วันเลือกตาย” หนังดราม่ากระฟัดกระเฟียดสังคมคนแก่ได้อย่างมากถ่วงแล้วก็ตรงประเด็น กับมุมมองการสะท้อนการขับเขยื้อนไปสู่สังคมที่เต็มไปด้วยคนวัยแก่ที่มีอัตรามากยิ่งกว่าหนุ่มสาว ที่ทำให้ภาครัฐต้องหาทางออก ถึงเป็นเพียงแค่หนังเพียงแค่ก็บางทีอาจจะแปลงเป็นความเป็นจริงในอนาคตก็มีเป็นได้

Plan 75 วันเลือกตาย เกิดเรื่องราวเหตุในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นบัญญัติกฎหมายอนุญาตให้สังหารคนสูงอายุ อายุ 75 ปีขึ้นไปฟรี พร้อมกับมอบเงินทดแทนให้ด้วย เพื่อจัดการกับปัญหาจำนวนผู้สูงวัยที่มากจนถึงเกินจุดสมดุลในสังคมคนวัยชรา ยายคนหนึ่ง กำลังลังเลว่าคุณควรจะรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลดีหรือเปล่า และก็จะจัดแจงกับชีวิตในตอนตอนปลายชีวิตที่แสนลำพังแบบนี้ยังไงถัดไป

นี่เป็นผลงานการควบคุมของนักสร้างภาพยนตร์หญิงไฟแรง “ฮายากาวะ จิเอะ” ที่กำลังโดนจับตามองอยู่ไม่น้อย ในหัวข้อนี้คุณได้จับเอาบทความจากแนวความคิดของ “เจสัน เกรย์” ผู้ชำนาญอยู่ในแวดวงหนังประเทศญี่ปุ่น มาดัดแปลงแล้วก็แปลความออกมาเป็นบทหนังที่คุณเรียบเรียงด้วยตัวเอง บนฐานรากของโลกสมมุติในอนาคตที่บางทีก็อาจจะอ้างอิงถึงโลกในชีวิตในตอนนี้ อยู่บ้าง กับสภาวะไปสู่สังคมคนสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นต้องเจอหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่แท้

เพียงแค่แนวความคิดแล้วก็คอนเซ็ปต์ของหนังก็จัดว่าซื้อใจผู้ชมไปได้เต็มๆแล้ว ปัญหาที่ท้าก็คือจะเล่าหนังออกมายังไง ให้ประสมประสานออกมาเป็นดราม่าที่สะท้อนความนึกคิดและไม่ใช่หนังที่ฟูมฟายเกินความจำเป็น รวมทั้งผู้กำกับหญิงรายนี้เลือกแนวทางสำหรับในการเล่าทางมุมมองของผู้แสดงต่างๆในเรื่องราวเดียวกัน เป็นแถวคิดเชิงทับซ้อนที่พอดีได้อย่างงดงาม จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไม แล้วก็เปลี่ยนออกมาเป็นหนังที่ทำให้ผู้ชมได้ขบคิดตามไปด้วยตลอดระยะเวลา กับปริศนาว่าที่ว่า “หาก…”

ถึงแม้ Plan 75 จะมีโทนการเล่าเรื่องที่นุ่มลึกแล้วก็ค่อนข้างจะนิ่งๆไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ว่าก็สามารถทำให้ผู้ชมจ้องติดตามการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ความเจริญแนวความคิดของทุกผู้แสดงได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ ที่พวกเขาต่างแก่ชราลงแต่ละวัน และไม่ต้องการจะเป็นภาระหน้าที่ให้กับผู้ใดกัน แต่ว่าด้วยเหตุว่าความโรยราของร่างกาย บางคราวก็เป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิต หรือจะเป็นมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลหลักการนี้ ที่แม้ว่าจะแบกรับหน้าที่มาก่อนเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงมีความเป็นคนแอบอยู่ในตัวทุกคน

Plan 75 นับได้ว่าเป็นหนังที่มีปัญหาแจ่มกระจ่างเป็นอันมาก แจ่มชัดว่าอยากติดต่อไปในแนวทางใดแล้วก็สะท้อนแนวทางนั้นๆออกมาได้ค่อนข้างจะกระจ่าง ถึงแม้การมีหลายผู้แสดงให้จุดโฟกัสนั้นบางครั้งก็อาจจะไม่สามารถที่จะครอบคลุมเนื้อหาได้ทั้งหมดทั้งปวงก็ตาม แม้กระนั้นจำต้องเห็นด้วยว่าฉากเปิดของหนังประเด็นนี้เป็นอะไรที่น่าแปลกใจรวมทั้งเสียใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งกระนั้นก็จะต้องยกย่องมุมมองและก็แนวความคิดของผู้กำกับที่ต้องการจะสื่อถึงผู้ชมได้อย่างไม่อ้อมค้อมตั้งแต่นาทีแรก มันเป็นฉากที่สำเร็จลัพธ์ของหนังทั้งยังเรื่องทั้งปวงเลยก็ว่าได้

และก็การที่หนังได้ดาราหนังอาวุโส “จิเอโกะ ไบโซะ” มาแบกรับบทนำอีกทั้งเรื่องในวัย 80 ปีของคุณ ก็ถือเป็นการมอบโอกาสแล้วก็ปลดปล่อยให้คุณได้โชว์ประสิทธิภาพทางการแสดงของแท้ออกมาอีกรอบ นี่เป็นดาราหนังรุ่นเก๋าที่เชี่ยวชาญในแวดวงสำราญใจประเทศญี่ปุ่นมานานถึง 6 ทศวรรษ กับงานแสดงที่น่าจะเป็นร้อยกว่าเรื่อง คุณสามารถหามหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้ด้วยการแสดงกล้วยๆและก็ทรงอำนาจ ไม่ใช่แค่เพียงแค่ผ่านบทสำหรับพูด แต่ว่าอินเนอร์และก็ท่าทีต่างๆออกมาได้อย่างถ่องแท้ในทุกส่วนประกอบ หนังประเด็นนี้ก็เลยแปลงเป็นการกลับมาเป็นนางเอกหนังอีกรอบในรอบนับเป็นเวลาหลายปีของคุณ

ในตอนที่ผู้แสดงอาวุโสอีกผู้คนจำนวนมากที่มาสมทบในหัวข้อนี้ก็นับว่าเข้ามาเสริมส่วนประกอบทำให้หนังมองแข็งแรงและก็ตอบปัญหาหนังให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ติดอยู่ซุโยชิ คูชิดะ” ที่นับว่าให้การแสดงแบบน้อยแต่ว่ามากมาย มาไม่มากแต่ว่าออกจะทรงอำนาจ ส่วนดาราหนังแบบใหม่ อย่าง “ฮายาโตะ อิโซมุระ” หรือ “ยูไม่ คาวะอิ” หน้าที่บางครั้งอาจจะมิได้มีแก่นลึกเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็เป็นส่วนเสริมที่สำคัญ เหมือนกับ “สเตฟานี่ อาริแอนน์” ในบทผู้ย้ายที่อยู่ชาวประเทศฟิลิปปินส์ ที่เสมือนจะไม่มีอะไร แม้กระนั้นนักแสดงนี้กลับเต็มไปด้วยมิติที่เสริมหนังหัวข้อนี้ขึ้นมาเจริญอีกผู้แสดงหนึ่ง

ตกลงว่า Plan 75 วันเลือกตาย จัดได้ว่าเป็นหนังที่กระทบกระแทกตรงปัญหาที่ต้องการจะติดต่อสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยม แมสเสจของหนังค่อนข้างจะแข็งแรงมากมาย มากมายเสียจนกระทั่งทำให้ผู้ชมจะต้องคิดเหมือนตามแล้วก็ฉุกคิดและก็แอบดูไปถึงอนาคตว่า หากพวกเราตกอยู่ในเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกับผู้แสดงในประเด็นนี้ พวกเราจะตกลงใจจัดแจงชีวิตตนเองเช่นไร? แล้วก็ยิ่งคิดตามก็ยิ่งอินไปกับรายละเอียดของหนัง กับอนาคตที่อย่างไรพวกเราบางทีอาจจะจำต้องพบกับสภาวะสังคมผู้อาวุโสรออยู่ข้างนานแน่ๆ

หนัง Shin Ultraman หรือชื่อไทยว่า เคยชินอุลตร้าแมน สิ่งมีชีวิตปัญหาขนาดยักษ์ที่เกิดขึ้นเหนือธรรมชาติ “ไคจู” ที่เป็นภัยรุกรามระดับพิเศษ

ได้เผยตัวขึ้นโดยตลอด จนถึงเปลี่ยนเป็นเรื่องทุกวันของญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลของญี่ปุ่นไม่สามารถที่จะจัดแจงได้ ก็เลยได้กระทำการตั้งกลุ่มห้องปฎิบัติการพิเศษต้านไคจู มีชื่อว่า “ทีมเฉพาะกิจปราบไคจู” ในขณะที่อันตรายของตัวประหลาดกำลังเข้ามาใกล้ จู่ๆมนุษย์ยักษ์สีเงิน ได้เผยตัวขึ้นอย่างฉับพลัน เหนือชั้นบรรยากาศของโลก ผู้มีตัวตนปัญหา “อุลตร้าแมน” “เจ้ารักในมนุษย์มากมายขนาดนั้นเลยหรออุลตร้าแมน”

สิ่งมีชีวิตปัญหาขนาดยักษ์ที่เกิดขึ้นเหนือธรรมชาติ “ไคจู” ที่เป็นภัยรุกรามระดับพิเศษ ได้แสดงตัวขึ้นโดยตลอด จนถึงแปลงเป็นเรื่องทุกวันของญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลของญี่ปุ่นไม่สามารถที่จะจัดแจงได้ ก็เลยได้กระทำริเริ่มตั้งขึ้นกลุ่มห้องปฎิบัติการพิเศษต้านทานไคจู มีชื่อว่า “ทีมเฉพาะกิจกำจัดไคจู” ในขณะที่อันตรายของตัวประหลาดกำลังเข้ามาใกล้ จู่ๆมนุษย์ยักษ์สีเงิน ได้แสดงตัวขึ้นอย่างเฉียบพลัน เหนือชั้นบรรยากาศของโลก ผู้มีตัวตนปัญหา “อุลตร้าแมน”

เรื่องราวการเสี่ยงอันตรายครั้งใหม่ของโกคูแล้วก็ผองสหาย และลูกชายของเขา เมื่อพวกกองกำลังเรดยึดบิน ตัวร้ายต้นฉบับได้กลับมาท้าพวกเขาอีกที ด้วยหุ่นแอนดรอยด์แบบใหม่ที่พวกเขาจะต้องประมือด้วย

คนชอบดูหนังสายระทึกแอบซ่อนปัญหาเชิญชวนลุ้นจิกเบาะควรต้องประทับใจแน่ๆกับภาพยนตร์ “Decision to Leave การฆ่ารัก ข้างหลังเขา”

หนังสุดร้อนเขย่าประสาทผู้ชมเรื่องปัจจุบันโดยผู้กำกับ “พัคชานอุค” ที่เคยมอบความอึ้ง ตลึง เหวอให้กับผู้ชมในผลงานตรีภาคมหากาพย์ที่การล้างเเค้น “The Vengeance Trilogy” ไม่ว่าจะเป็น “Sympathy for Mr. Vengeance (2002), Oldboy (2003) แล้วก็ Lady Vengeance (2005)” จนถึงขึ้นแท่นเป็นหนังชื่นชอบของคนอีกหลายๆคนมาแล้ว

และก็การมาคราวนี้ของ “Decision to Leave” ก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังอย่างเดิม เนื่องจากว่าเพียงแค่เปิดตัวฉายรอบรอบปฐมฤกษ์ที่เทศกาลหนังคานส์ในพ.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา บรรดาสื่อใหญ่จากทั้งโลกต่างกลมเกลียวพร้อมใจเทคะแนนให้สูงถึง 90% บนเว็บ Rotten Tomatoes รวมทั้งได้คะแนนทิ้งห่างโด่งที่ 3.2/4 ของสำนัก Screendaily และก็เกิดเรื่องเดียวในปีนี้ที่ได้เกิน 3.0 ทั้งยังคนไม่ใช่น้อยถึงกับขนาดกล่าวว่า “นี่เป็นหนังที่โรแมนติกที่เชื้อเชิญให้ทั้งยังกระตุ้นอารมณ์และก็น่าเร้าใจที่สุดที่ปี”

เพิ่มดีกรีความเข้มข้นให้กับภาพยนตร์ “Decision to Leave การฆ่าสังหารรัก ข้างหลังเขา” ด้วย 2 ดาราความสามารถระดับเทวดาที่จะมาร่วมไขปัญหาสับขาหลอกกระทั่งทายใจผิดอย่าง “ถังเหว่ย” ที่ถือว่าเป็นการคัมแบ็กครั้งที่สมศักดิ์ศรีที่สุดภายหลังแจ้งกำเนิดสุดยอดในบทสุดฉาว “Lust, Caution” (2007) จนกระทั่งครอบครองรางวัล “ดาราหนังคนใหม่ดีที่สุด” จากเวทีบาฟต้าหรือออสการ์ของฝั่งอังกฤษ ซึ่งการเล่นบทเป็น “ซอแร” เมียสาวม่ายผู้เก็บความลับอันดำมิดหมีได้อย่างพราวแพรวรวมทั้งเปี่ยมเสน่ห์นั้น ทำให้คุณได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม กระทั่งหลายๆคนชูให้คุณเป็นตัวเต็งที่กำลังจะได้รางวัลดารานำหญิงอันดับแรกๆของปีนี้

รวมทั้ง “พัคแฮอิล” ดาราชายเจ้าหน้าที่ที่ฝากผลงานมีชื่อจากความสามารถผู้กำกับชั้นหนึ่งของประเทศเกาหลีมาแล้วจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “Memories of Murder (2003), The Host (2006), A Muse (2012), High Society (2018)” อื่นๆอีกมากมาย กับหน้าที่ “แฮจุน” สายลับชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงความฝันรัก ที่ถึงแม้ว่าข้างนอกผิวเผินเขาจะดูราวกับว่าคนเดินดินที่กลายเป็นเหยื่อ แม้กระนั้นโดยความเป็นจริงแล้วกำลังต่อสู้กับความชั่วร้ายจากอะไรบางอย่างที่ผู้ชมจำเป็นจะต้องน่ากลัวไปกับการแสดงของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

รวมทั้งอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดมิได้มันก็คือ “เกมรักมรณะ” ระหว่าง 2 ผู้แสดงที่จำต้องมาบาดใจรวมทั้งชิงไหวชิงพริบกันแบบไม่ลดละ เมื่อเสน่ห์ร้อนของหญิงสาวเป็น 1 กับดักที่ทำให้เกิดอาการชายชายหนุ่มจะต้องหลงเสน่ห์ในเกมอันตรายที่บางทีอาจจำต้องแลกเปลี่ยนด้วยชีวิต ซึ่งจะมีผลให้ผู้ชมดำตรงสู่ศิลป์ที่ความเย้ายวน เมื่อความสนิทสนมของ 2 ผู้แสดงกำเนิดเป็นความผูกพันแล้วก็ความเกี่ยวเนื่องอันลึกซึ้งจนถึงทำให้เกิดการความสลับซับซ้อนลึกลับซับซ้อนมากอันสุดจะคาดคะเน

ถึงเวลาปล่อยอะดรีนาลีนไปกับเกมไล่ล่าที่จะทำให้ท่านลืมทุกความเหี้ยมโหดที่เคยสัมผัสมา “Decision to Leave การฆ่ารัก ข้างหลังเขา” ข่มใจคอยกันอีกนิด 22 ก.ย.นี้ ในโรงหนัง

แอฟ ทักษอร สวมบทบาทเป็นหญิงที่ถูกด่าว่าว่าเป็นชู้ และก็ถูกขัดขวางไม่ให้เจอลูก ใน “SIX CHARACTERS มายาพิศวง”

สาวงามประจำจังหวัดผู้สวยมั่งคั่งเช่นกุลสตรี และก็เข้าพิธีการแต่งงานกับมหาเศรษฐีชายหนุ่มใหญ่ กระทั่งมีลูกชายวัย 1 ขวบ ซึ่งเป็นผู้สืบสกุลผู้เดียวของวงศ์สกุล แม้กระนั้นแล้วคุณก็จำเป็นต้องถูกตราหน้าว่า “มีชู้” กับเลขาชายหนุ่มรูปหล่อของผัวคุณเอง จนถึงทำให้คุณถูกไล่ออกจากคฤหาสน์แล้วก็ถูกขัดขวางไม่ให้เจอ “ลูกชาย” โดยเด็ดขาดนานนับ 20 ปี

“แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” สวมบทบาทหนักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยสวมบทบาทเป็นสาวงามประจำจังหวัดผู้สวยพรั่งพร้อมเช่นกุลสตรี แล้วก็เข้าพิธีการสมรสกับมหาเศรษฐีชายหนุ่มใหญ่ ( ศักราช ยามทรงค์ ) กระทั่งมีลูกชายวัย 1 ขวบ ซึ่งเป็นผู้สืบสกุลผู้เดียวของวงศ์สกุล ( ฮัท จิรำไพชญ์ ดงษ์สวย ) แต่ว่าแล้วคุณก็จำต้องถูกตราหน้าว่า “คบชู้” กับเลขาชายหนุ่มรูปหล่อของผัวคุณเอง ( บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ) กระทั่งทำให้คุณถูกไล่ออกจากคฤหาสน์แล้วก็ถูกกีดกั้นไม่ให้เจอ “ลูกชาย” โดยเด็ดขาดนานนับ 20 ปี

หม่อมน้อย เปิดเผยว่า “ไม่มีศิลปินดาราข้างหญิงคนใดจะเหมาะสมกับบทนี้เท่า ‘แอฟ ทักษอร’ อีกแล้ว ด้วยเหตุว่าคุณต้องแสดงบทนี้ตั้งแต่ ‘ยังสาว’ จวบจนกระทั่ง ‘แก่’ อีกทั้งเป็นบทที่ ‘ลึก’ น่า ‘ค้นคว้า’ ว่าเหตุไร สาวงามผู้มั่งคั่งเช่นกุลสตรีก็เลยถูกตราหน้าอย่างเลวทรามแบบนี้ ” ตระเตรียม ‘ ค้นหา ’ ความเป็นจริงในโรงหนังเร็วๆนี้